อันดับแรกเป็นการทบทวนบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ผลการตัดสินใจของธนาคารกลางในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นถึงสี่เท่าของปี 2560-2561 ยังคงครอบงำคู่ EUR/USD ต่อไป รวมถึงผลการเลือกตั้งประเทศเยอรมนีซึ่งไม่ได้ปรากฏออกมาสมบูรณ์แบบสำหรับนายกรัฐมนตรีแมร์เคล ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากได้คาดการณ์ไว้ ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมากกว่า 230 จุดในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ในเวลาต่อมาค่าเงินยูโรก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นโดยขยับขึ้นมาที่ 1.1815
- สำหรับคู่ GBP/USD ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นบ้างอีกครั้ง แต่ยังไม่เป็นที่น่าประทับใจเท่าในกรณีของค่าเงินยูโร ในขณะที่ค่าเงินปอนด์อังกฤษอ่อนค่าลงประมาณ 100 จุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- USD/JPY มีนักวิเคราะห์กว่า 85% ซึ่งสนับสนุนโดยหนึ่งในสามของออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 ได้คาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวลดลงและหลังจากนั้นเทรนด์ขาขึ้นจะยังคงดำเนินต่อไปอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ราคาได้ปรับตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 กันยายน ราคาก็ได้ถอยลดลงที่ 111.50 หลังจากนั้นราคาก็กลับเข้าสู่ขาขึ้นสู่ที่ระดับ 113.25 ในวันพุธ สำรับในท้ายสัปดาห์ ราคาปิดตลาดห้าวันที่ระดับ 112.50 ซึ่งให้เหตุผลในการพูดถึงการชะลอตัวของราคาอย่างช้าๆ ของแนวโน้มขาขึ้น
- สำหรับ USD/CHF มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 80% อีกทั้งจำนวนดัชนีและการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ระบุว่าระดับที่ 0.9770 เป็นค่าสูงสุดประจำสัปดาห์สำหรับคู่นี้ และผลออกมาถูกต้อง 100% ราคาอยู่ที่ระดับนี้เมื่อวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา และเป็นจุดนี้เองที่เทรนด์ราคาวกกลับทำให้ราคาปิดตลาดที่ 20 จุดต่ำกว่าราคาเมื่อตอนเปิดตลาดในช่วงต้นสัปดาห์
บทวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์สำหรับสัปดาห์นี้
จากการสรุปความคิดเห็นของบรรดานักวิเคราะห์จากธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำต่างๆ รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟ จึงสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้
- สถานการณ์ของคู่ EUR/USD ดูไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญจึงแบ่งออกเป็นครึ่งต่อครึ่ง โดย 50% ของผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าราคาจะขยับขึ้น ในขณะที่อีก 50% เห็นว่าราคาจะขยับลง สำหรับดัชนีแนวโน้มราคาในกรอบ H4 และสองในสามของดัชนีทั้งหมดส่งสัญญาณสีเขียว อีกหนึ่งในสามส่งสัญญาณสีแดง สำหรับในกรอบ D1 ส่งผลออกมาตรงกันข้าม ออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 ให้ความสำคัญกับสีเขียวเช่นกัน ดังนั้น จึงเข้าสู่ความขัดแย้งที่หาข้อสรุปไม่ได้เนื่องจากออสซิลเลเตอร์ส่งสัญญาณสีแดงในกรอบเวลาหนึ่งวัน
จากการวิเคราะห์กราฟ ราคาจะพยายามอีกครั้งที่จะขยับถึงระดับความสูงที่ 1.2100 ในอีก 2-3 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ หลังจากนั้นราคาจะวกกลับลงทิศใต้ โดยมีเป้าหมายหลักที่ค่าแนวรับ 1.1660
เราควรคำนึงถึงผลลัพธ์ของการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันพุธที่ 4 ตุลาคม รวมถึงการประกาศข้อมูลจำนวนการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ ที่อยู่นอกเหนือภาคการเกษตร (NFP) ในวันที่ 6 ตุลาคมนี้ซึ่งจะส่งผลต่อการก่อตัวของแนวโน้มราคา ตามที่คาดการณ์ไว้ ตัวเลขอาจขยับลงจาก 156K ถึง 98K และอาจถึง 75K อีกด้วย เป็นที่เชื่อกันโดยทั่วไปว่าตัวเลข NFP จะลดต่ำลงอย่างยิ่งจนนำไปสู่การอ่อนค่าของค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นรายใหญ่มักมีท่าทีที่ตรงกันข้ามกับกฎทั่วไปในช่วงหลังมานี้ ผลลัพธ์ก็คือนักลงทุนหลายคนต้องขาดทุนเป็นจำนวนมหาศาล - เมื่อกล่าวถึงอนาคตของค่าเงิน GBP/USD นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (55%) คาดการณ์ว่าราคากำลังเข้าสู่ขาลง ดัชนีเทรนด์ในกรอบ H4 และการวิเคราะห์กราฟสนับสนุนแนวโน้มขาลงนี้เช่นเดียวกัน โดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ชี้ว่าในช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ราคาจะขยับเข้าสู่เพดานด้านล่างของระยะกลางที่กำลังเติบโตขึ้นเริ่มตั้งแต่มกราคมนี้ เป้าหมายอยู่ที่ 1.4670 โดยมีค่าแนวรับอยู่ที่ 1.3500
สำหรับผู้เชี่ยวชาญที่เหลือ มี 20% ของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเทคะแนนเสียงให้กับการเติบโตขึ้นของราคาขึ้นที่ 1.3600 และอีก 25% คาดว่าราคาจะคงที่ ในขณะที่ออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ในกรอบ D1 มีท่าทีเป็นกลางเช่นกัน
- สำหรับคู่ USD/JPY มีนักวิเคราะห์ 55% ที่สนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟและออสซิลเลเตอร์อีก 25% เชื่อว่าราคาจะเข้าสู่ช่วงปรับตัวและในขณะนี้คาดว่าราคาอาจจะขยับลงชั่วคราวไปในโซน 111.00-111.50
ความเห็นอีกทางคาดว่าราคาจะไม่มีการปรับตัว และราคาจะยังคงขยับขึ้นสู่ทิศเหนือโดยไม่หยุดชะงัก ความเห็นนี้ได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 45% มีเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่เพดานด้านบนของระยะกลางที่ระดับ 114.50
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายอาเบะ ก็เข้าข้างตลาดขาขึ้นเช่นกันจากผลการตัดสินใจยุบสภาและจัดการเลือกตั้งเร็วกว่ากำหนดในวันที่ 22 ตุลาคมที่จะถึงนี้ - การคาดการณ์ราคา USD/CHF มองว่าราคาคู่นี้จะขยับเข้าสู่ช่วงคงที่ในโซน 0.9585-0.9770 เป็นเวลาระยะหนึ่ง ในขณะเดียวกัน ออสซิลเลเตอร์จำนวนหนึ่งในสามกำลังให้สัญญาณว่ามีการถูกซื้อมากเกินไป ซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ว่าราคาอาจจะขยับลงในช่วงแรกไปยังเพดานด้านล่างและฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อมา ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 60% ดัชนีแนวโน้มราคาในกรอบ H4 และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 เห็นด้วยกับความเห็นนี้
โรมัน บุทโก, NordFX
กลับ กลับ