ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่สำคัญสำหรับบิทคอยน์ แม้ว่าคนที่ไม่เคยรู้จักสกุลเงินดิจิทัลมาก่อนก็แน่นอนว่าต้องเคยได้ยินคำว่าบิทคอยน์ผ่านหูกันมาบ้างสักครั้งสองครั้ง คำนี้พบได้ทุกที่ ทั้งในหนังสือพิมพ์ ในทีวี บนอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจแต่อย่างใด ในช่วงเวลากว่า 11 เดือนของปี 2560 สกุลเงินดิจิทัลได้เพิ่มมูลค่าขึ้นถึง 20 เท่า (จาก 900 USD ต่อ 1 เหรียญ ถึงเกือบ 20,000 USD) การเพิ่มขึ้นของความต้องการเป็นตัวผลักดันให้ราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามบรรดาจำนวนผู้ที่ต้องการทำกำไรมหาศาลจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินคริปโต หลังจากนั้นในเวลาเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 12 – 17 ธันวาคม บิทคอยน์เสียมูลค่าลงกว่า 45% การลดมูลค่าต่ำลงนี้แสดงให้เห็นว่าการใช้กลยุทธ์ “ซื้ออย่างเดียว” นั้น ไม่ใช่วิถีการทำกำไรสำหรับนักเทรดและนักลงทุนเสมอไป เพราะอาจก่อให้เกิดการพังพินาศได้
แล้วในปี 2561 นี้ บิทคอยน์จะมีทิศทางอย่างไร? เราควรจะซื้อหรือว่าขายดี? หรือว่าเราควรทิ้งเหรียญดิจิทัลเหล่านี้ไปเพราะมีความผันผวนที่สูงเกินไป?
นายจอห์น กอร์ดอน นักวิเคราะห์ชั้นนำจากบริษัทโบรกเกอร์ NordFX กล่าวว่า “สิ่งที่ควรตระหนักก็คือในช่วงเวลาที่ราคาบิทคอยน์ถดถอยลงมา สกุลเงินคริปโตหลายสกุลเติบโตขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่านักลงทุนคริปโตลังเลที่จะละทิ้งตลาดบล็อกเชนโดยสิ้นเชิงแต่เปลี่ยนจากบิทคอยน์ไปยังเหรียญอื่นๆ แทนแล้วแต่สถานการณ์ ไม่มีใครต้องการที่จะเสียโอกาสในการได้รับผลตอบแทนหลายร้อยหลายพันเปอร์เซ็นต์ ดังนั้น คงไม่มีทีท่าว่าจะมีเงินไหลออกจำนวนมากจากตลาดคริปโตไปยังตลาดฟอเร็กซ์หรือตลาดหุ้น คำถามเดียวขณะนี้ก็คือเหรียญตัวไหนคือเหรียญที่ควรค่าแก่การลงทุนมากที่สุดสำหรับปี 2561 บิทคอยน์จะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำ หรือว่าจะถูกแทนที่โดยสกุลเงินคริปโตสกุลอื่น เช่น อีทีเรียม ได้หรือไม่?
"เนื่องจากค่าคอมมิสชั่นที่สูงขึ้นและการทำธุรกรรมอย่างเชื่องช้าเป็นอันมาก บิทคอยน์จึงไม่ถูกใช้งานเป็นช่องทางชำระเงินอีกต่อไป ตามความคิดเห็นของนายเจซ ซาน นักพัฒนาและซีอีโอของบริษัท FunFair Technologies เขามองว่าบิทคอยน์เป็นโอกาสการลงทุนที่ไม่น่าเชื่อถือ แม้ว่าจะมีผลลัพธ์ที่น่าประทับใจในปีที่ผ่านมาก็ตาม นายซานเชื่อว่าบิทคอยน์เป็นสิ่งที่ล้าสมัยและเปรียบเสมือนกับการใช้ระบบปฏิบัติการ DOS ในขณะที่อีทีเรียมเปรียบเสมือน Windows หรือ Mac OS ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมนักพัฒนาถึงได้สร้างแอปพลิเคชันหลายพันแอปบ่งบอกว่าอีทีเรียมมีอนาคตที่สดใส”
ผู้เชี่ยวชาญจาก Macro นายปีเตอร์ เชียร์ ก็ตั้งข้อสงสัยกับบิทคอยน์เช่นกัน ในบทสัมภาษณ์ของ Forbes เขากล่าวว่าในขณะนี้บิทคอยน์มีพฤติกรรมเหมือนกับสินทรัพย์ที่ถูกซื้อมากเกินไปทั่วไป ซึ่งมีนัยว่าความสนใจของผู้บริโภคในบิทคอยน์นี้กำลังลดลง
อย่างไรก็ดี มันอาจเป็นไปได้ว่าการลดลงของราคาบิทคอยน์เป็นเพียงชั่วขณะและอุปสงค์อาจจะเพิ่มขึ้นได้ โดยจากผลสำรวจล่าสุดโดย Harris พบว่ามีชาวอเมริกันเพียง 2 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นเจ้าของบิทคอยน์ แต่ว่ามี 19% ที่กล่าวว่ามีแผนจะซื้อมาครอบครองภายในสองสามปีข้างหน้า สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของราคาบิทคอยน์ในตลาดได้ถึงสิบเท่า “เป็นไปได้ว่าฟองสบู่สกุลเงินคริปโตจะไต่สูงขึ้นถึง 10 ล้านล้าน และจะมีมูลค่ามากกว่าปัจจุบันถึง 20 เท่า” กล่าวโดยนายไมค์ โนโวกราทซ์ เศรษฐีพันล้านผู้ได้ลงทุนในสกุลเงินคริปโตเป็นมูลค่าถึงหนึ่งในสามของทรัพย์สมบัติของเขาตามบทสัมภาษณ์ใน Fortune
“เราได้วิเคราะห์ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอนาคตของบิทคอยน์” กล่าวโดยนายจอห์น กอร์ดอน จาก NordfX “และถ้าหากเราพยายามที่จะหาลักษณะร่วมกันแล้ว เราจะเห็นภาพดังนี้: ผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่บิทคอยน์จะถดถอยต่ำลงมา โดยมองว่าราคาขั้นต่ำต่อเหรียญน่าจะอยู่ในช่วง 4,500 – 10,000 ดอลลาร์ อย่างไรก็ดี การขยับลดลงมานี้จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ภาพรวมทั่วไปมีแนวโน้มที่ดีพอ ในช่วงปี 2561 บิทคอยน์อาจขยับสูงขึ้นถึง 50,000 – 100,000 ดอลลาร์ แน่นอนว่าตัวเลขเหล่านี้ดูน่าประทับใจเป็นอย่างมาก แต่ถ้าคุณพิจารณาดูว่าสกุลเงินคริปโตนี้มีจุดเริ่มต้นที่ $15,000 การเพิ่มขึ้นของราคาก็อาจพอประมาณอยู่ที่ 3 – 5 หรือ 6 เท่า เท่านั้น อย่างไรก็ดี ก็ยังถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าการลงทุนในหุ้นและสกุลเงินทั่วไปหลายเท่า”
นายสเปนเซอร์ โบการ์ท ผู้เชี่ยวชาญที่ให้ความเห็นใน Daily Express ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 50,000 ดอลลาร์ เขาและนายจูเลียน ฮอส์ป ผู้ก่อตั้งบริษัทเกี่ยวกับการเข้ารหัส บริษัท TenX ซึ่งคาดว่าราคาบิทคอยน์จะอยู่ที่ 60,000 ตามที่ให้ไว้กับสำนักข่าว CNBC ก็เห็นด้วยกับผลการประเมินของนายจอห์น กอร์ดอน สำหรับผู้ขายโปรแกรมต่อต้านไวรัสที่มีชื่อเสียงอย่างนายจอห์น แมกกาฟี มองว่าราคาบิทคอยน์น่าจะขยับสูงขึ้นเหนือ 100,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ
"คำทำนายที่พอดีมากกว่าคือคำทำนายจาก WalletInvestor” นายจอห์น กอร์ดอนกล่าวต่อไปว่า “ตามผู้เชี่ยวชาญของเว็บไซต์นี้ บิทคอยน์จะขยับไปที่ประมาณ 28,000 USD (เพิ่มสูงขึ้น 85%) ในปี 2561 และอีทีเรียมจะขึ้นไปอยู่ที่ 1,940 USD (เพิ่มสูงขึ้น 60%) และไลท์คอยน์ที่ 405 USD (เพิ่มสูงขึ้น 60%) ด้วยคำทำนายดังกล่าว นักเทรดเงินคริปโตและนักลงทุนสามารถเพิ่มพูนกำไรได้หลายเท่าด้วยค่าเลเวอเรจที่บริษัท NordFX พร้อมให้บริการ โดย NordFX สามารถให้เครดิตการซื้อขายของลูกค้ามากถึง 1,000 เท่าจากเงินทุนเริ่มต้นของลูกค้า โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และไม่มีหลักประกันใดๆ ดังนั้น เพียงนักลงทุนมีเงินไม่กี่ดอลลาร์อยู่ในบัญชีก็เพียงพอต่อการซื้อบิทคอยน์ 1 เหรียญที่ราคาปัจจุบัน ข้อเสนอเช่นนี้มีลักษณะพิเศษในตลาด การเปิดบัญชีใช้เวลาเพียงหนึ่งหรือสองนาที ซึ่งหลังจากนั้นลูกค้าสามารถทำการซื้อหรือขายเงินสกุลคริปโตได้ โดยเฉพาะการขายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากการขายทำให้คุณสามารถทำกำไรได้แม้ในสถานการณ์ที่เงินสกุลคริปโตถอยตกต่ำลงมา ซึ่งปรากฏให้เห็นในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่าไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้แม้ว่าจะมีคำทำนายในแง่ดีออกมาให้เห็นมากมายก่อนหน้านี้
ขณะนี้ NodFX ให้บริการลูกค้าในการซื้อขายสกุลเงินคริปโตสามสกุลหลักที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ บิทคอยน์ ไลท์คอยน์ และอีทีเรียม อย่างไรก็ตาม เราคอยจับตามองตลาดบล็อกเชนอยู่เสมอ และหากสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงไป เราพร้อมที่จะขยับขยายรายการสินทรัพย์การเทรดได้อย่างรวดเร็ว”
กลับ กลับ