บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี สำหรับเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2561

โดยทั่วไปแล้ว ฤดูร้อน (ฤดูร้อนฝั่งยุโรปคือมิถุนายน-สิงหาคม) จะเป็นช่วงที่กิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัว บรรดานักเทรดวีไอพีต่างกำลังพักผ่อนอาบแดดอยู่บนเรือยอร์ช ในขณะที่ผู้บริหารธนาคารกลางทั้งหลายออกจากออฟฟิศที่น่าเบื่อและทิ้งภารกิจที่เหลือรวบยอดไว้ตอนฤดูใบไม้ผลิทีเดียว และหลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงนักเทรดทั่วไปหยุดพักผ่อน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนในฤดูร้อนอาจมีเรื่องน่าประหลาดใจเกิดขึ้น เช่น ย้อนไปที่การลงประชามติของสหราชอาณาจักรเพื่อแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเมื่อเดือนมิถุนายน 2559 ผลการลงประชามติทำให้ตลาดการเงินและตลาดหุ้นต่างต้องตกใจกันไปตามๆ กัน

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าไม่น่าจะเกิดข่าวหรือเหตุการณ์สำคัญในลักษณะดังกล่าวในสามเดือนข้างหน้านี้ แต่บางเหตุการณ์ก็อาจจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนและแนวโน้มต่างๆ ได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน

  • EUR/USD มีความเป็นไปได้สูงว่าธนาคารกลางยุโรปจะให้สัญญาณในช่วงฤดูร้อนนี้เกี่ยวกับแนวโน้มการบังคับใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายเป็นอย่างมากโดยการกว้านซื้อสินทรัพย์ต่างๆ ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าจะเริ่มขึ้นหลังการประชุม ณ วันที่ 14 มิถุนายน หรือ 26 กรกฎาคม เนื่องจากการประชุมครั้งถัดไปจะมีขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ผู้บริหารธนาคารกลางยุโรปได้เน้นย้ำหลายครั้งเกี่ยวกับแผนการที่จะบังคับใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตลอดจนการก้าวเข้าสู่การพัฒนาอีกขั้นหนึ่ง ซึ่งได้มีการกล่าวถึงโดยประธานธนาคารกลางฝรั่งเศส นาย Vileroia de Gallo ผู้บริหารธนาคารกลางเยอรมนี และประธานธนาคารกลางลิธัวเนีย นาย Vitas Vasiliauska
    ด้วยเหตุนี้เอง แม้ว่าค่าเงินยูโรจะยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องมาสักระยะ ตลาดก็ได้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์แล้วในขณะนี้ และหากในระหว่างการประชุมใดๆ ข้างต้นนั้น ประธานธนาคารกลาง นาย Mario Draghi ได้กล่าวแถลงการณ์ที่มีเนื้อหาหนักแน่นมากพอ ค่าเงินยูโรจะพุ่งทะยานสูงขึ้นโดยทันที โดย ณ ขณะนี้ มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากกว่า 60% ที่เห็นด้วยกับสถานการณ์ดังกล่าว พวกเขาเชื่อว่าคู่ EUR/USD จะกลับไปสู่ความสูงที่ 2018 ในโซน 1.2400 – 1.2555 ภายในเดือนกันยายนนี้
    ในขณะที่นักวิเคราะห์อีก 10% ยังคงตัดสินใจไม่ได้ และผู้เชี่ยวชาญอีก 30% ได้ลงคะแนนเสียงว่าค่าเงินดอลลาร์จะยังคงแข็งค่าต่อไป ซึ่งในกลุ่มนี้มองว่าการแข็งค่าดังกล่าวจะมีผลมาจากการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐฯ เทียบกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างนิ่งเฉยของทางฝั่งธนาคารกลางยุโรป ทั้งนี้ ผู้สนับสนุนตลาดหมีคาดการณ์ว่าธนาคารเฟ็ดของสหรัฐฯ จะปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น 0.5% ในอีกหกเดือนข้างหน้า ซึ่งจะนำไปสู่การลดลงของค่าเงินยูโรกลับไปที่ราคาต่ำสุดของเดือนกันยายนปีที่แล้วในโซน 1.1550 นอกจากนี้ การอ่อนค่าลงดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งล่วงหน้าก่อนท่าทีอย่างเป็นรูปธรรมของธนาคารกลางสหรัฐฯ
    หากเราพูดถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค บทวิเคราะห์ออกมาค่อนข้างกลางๆ โดยทำนายว่าราคาคู่นี้จะมีความผันผวนที่ค่อนข้างต่ำอยู่ที่ช่วง 1.1600 – 1.2000 สำหรับในช่วงเริ่มต้นของฤดูร้อน
    ผลจากการวิเคราะห์ด้วยออสซิลเลเตอร์ก็คาดการณ์ว่าจะมีการปรับตัวของราคาในทิศทางขาขึ้นหลังจากราคาตกลงมาแล้ว 700 จุด ดังนั้น หนึ่งในสี่ของออสซิลเลเตอร์จึงได้ให้สัญญาณแล้วว่าราคาคู่นี้อยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไปในกรอบรายวันและกรอบรายสัปดาห์
  • GBP/USD ค่าเงินปอนด์ยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนและการหาข้อสรุปไม่ได้กับสหภาพยุโรปในเรื่อง Brexit รวมถึงท่าทีที่นิ่งเฉยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน เป็นต้นมา ค่าเงินปอนด์ได้เสียมูลค่าไปกว่า 900 จุด และหากคุณดูบทวิเคราะห์กราฟและดัชนีต่างๆ จะเห็นว่าราคาไม่น่าจะหยุดอยู่แค่นั้น ดังนั้น จากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 สันนิษฐานได้ว่าราคาได้ขยับทะลุระดับแนวต้านที่ 1.3455 ก่อนที่จะดิ่งลงมาถึงราคาต่ำสุดที่ระดับ 1.3065 และในกรณีที่สามารถทะลุระดับแนวรับนี้ได้สำเร็จ ราคาอาจจะต้องดิ่งลงไปอีก 300 จุดที่ 1.2765
    อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนเพียง 35% เท่านั้นที่สนับสนุนสถานการณ์นี้ ในขณะที่อีก 10% มีท่าทีเป็นกลาง และผู้เชี่ยวชาญอีก 55% มั่นใจว่าตั้งแต่ช่วงกลางฤดูร้อนเป็นต้นไป ค่าเงินปอนด์จะเริ่มฟื้นแรงกำลังและราคาคู่นี้น่าจะขยับขึ้นไปที่ 1.4000 – 1.4100 เป็นอย่างน้อย ซึ่งในกรณีนี้เราต้องคำนึงด้วยว่า ณ ตอนนี้ มีออสซิลเลเตอร์เพียง 1 ตัวจากทั้งหมด 10 ตัวที่ให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป
  • USD/JPY สำหรับคู่นี้ชัดเจนว่าดัชนีเทรนด์เกือบทั้งหมดและออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 และ W1 ให้สัญญาณสีเขียว มีออสซิลเลเตอร์เพียง 10% ที่บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป
    สิ่งสำคัญที่ควรให้ความสนใจก็คือราคาได้กลับไปอยู่ในช่วง 108.25 – 114.70 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาเคลื่อนที่ในกรอบนี้มาตั้งแต่ต้นปี 2560 โดยราคาได้ขยับทะลุขอบด้านล่างของช่องนี้เมื่อช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ขณะนี้ราคากลับเข้าสู่จุด Pivot Point เดิมอีกครั้ง บางทีนี่คือเหตุผลว่าทำไมความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างแบ่งแยกออกเป็นหลายฝ่าย โดยหนึ่งในสามมองว่าราคาจะขยับในทิศทางขาขึ้น อีกหนึ่งในสามโหวตว่าเป็นแนวโน้มด้านข้าง และอีกหนึ่งในสามคาดการณ์ว่าราคาจะวิ่งลงทิศใต้
    เราสามารถสรุปจากข้างต้นได้ว่าราคาคู่นี้จะอยู่ในช่วงดังกล่าวในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งได้รับการยืนยันโดยการวิเคราะห์กราฟ และตั้งแต่เริ่มต้นฤดูร้อนเป็นต้นไป ราคาน่าจะขยับในช่วง 108.25 – 112.00 ก่อนที่จะปรับตัวสูงขึ้นไปที่แนวต้าน 114.70

  • คริปโตเคอเรนซี เราขอเรียนให้ทราบอีกครั้งว่า เนื่องจากตลาดคริปโตเคอเรนซีนั้นเป็นตลาดวงแคบและมีความผันผวนที่สูงขึ้น อัตราเงินดิจิทัลนี้อาจได้รับผลกระทบไม่เฉพาะจากการตัดสินใจของหน่วยงานสำคัญต่างๆ แต่รวมถึงคำพูด คำแถลง และท่าทีของบริษัทเอกชนและผู้ปล่อยข่าวในวงการด้วยเช่นกัน
    สำหรับคู่ BTC/USD ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 11,750 – 12,980 ภายในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้น ราคาคาดการณ์ว่าจะถอยกลับมาในตอนแรกที่ระดับ 10,000 และหลังจากนั้นอาจจะกลับไปที่แนวรับ 7,160
    นักวิเคราะห์ก็คาดการณ์พฤติกรรมในลักษณะเดียวกันกับเงินคริปโตสกุลอื่นๆ ที่มีมูลค่าในตลาดติด 10 อันดับแรก ดังนั้น ก็ยังมีความเป็นไปได้ว่าราคา ETH/USD จะสามารถทะลุระดับ $1000 ต่อ 1 เหรียญภายในเดือนกรกฎาคม หลังจากนั้น ราคาจะกลับมาที่ราคาประจำเดือนพฤษภาคมในช่วง $650
    และสำหรับคู่ LTC/USD ราคาน่าจะพยายามขยับขึ้นถึงระดับ $200 สำหรับไลท์คอยน์ หลังจากนั้นจึงจะถอยกลับมาที่ $140
    เป้าหมายที่ใกล้ที่สุดของคู่ XRP/USD คือการถอยกลับไปที่โซน 0.8850 หากราคาปรับตัวถึงระดับดังกล่าว เป้าหมายถัดไปจะขึ้นไปที่ 1.0000 หลังจากนั้นคาดการณ์ว่าราคาน่าจะถอยกลับมาที่ช่วง 0.6300 – 0.7000

 

โรมัน บุทโก, NordFX

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา