อันดับแรกเป็นบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (65%) ได้คาดการณ์ว่าราคาคู่นี้จะพยายามขยับทะลุระดับแนวรับที่ 1.1500 ซึ่งก็เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตาม ความพยายามดังกล่าวล้มเหลวเมื่อแรงหมีอ่อนกำลังลงท่ามกลางการเกิดสงครามทางการค้าชั่วคราวระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน เป็นเหตุให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงประมาณ 160 จุดเมื่อเทียบกับเงินยูโรและส่งผลให้ราคาขยับไปอยู่ในโซน Pivot Point ของช่วงหกเดือนและปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 1.1657
- นักวิเคราะห์จำนวน 60% ได้กล่าวคำคาดการณ์ว่าราคา GBP/USD อาจทะลุเพดานด้านล่างของช่องสี่สัปดาห์ที่ 1.3200 – 1.3470 และจะถอยลงมาที่ระดับ 1.3050 คำทำนายดังกล่าวออกมาถูกต้อง โดยเมื่อวันอังคารที่ 19 มิถุนายน ราคาได้ขยับอยู่ด้านล่างแนวรับที่ 1.3200 และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน ราคาแตะถึงระดับ 1.3100 อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางอังกฤษได้ประกาศข่าวอันน่าประหลาดใจอย่างไม่มีใครคาดคิด แทนที่ผลการโหวตในการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจะออกมาเป็นสองเสียงต่อเจ็ดเสียง ผลการโหวตให้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยได้รับคะแนน 3 เสียง แน่นอนว่าผลโหวตดังกล่าวไม่ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงโดยโครงสร้าง แต่แรงกระทิงก็เข้าใจดีในผลลัพธ์นี้และมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณการถีบตัวขึ้นของราคาในเดือนสิงหาคมจึงเริ่มมีการผลักดันราคาค่าเงินปอนด์ขึ้นมา ด้วยเหตุนี้ ราคาในช่วงปลายสัปดาห์ปรับขึ้นมาที่ 1.3260
- USD/JPY ผลลัพธ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าสัญญาณแม้เพียงเล็กน้อยจากออสซิลเลเตอร์ก็ควรได้รับพิจารณา ดังนั้น ในครั้งนี้ สัญญาณออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป โดยได้รับการสนับสนุนโดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งในสามและการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 ซึ่งชี้ว่าระดับแนวรับหลักอยู่ในโซน 109.40 เมื่อพิจารณาโดยภาพรวมแล้วจะเห็นว่าคำทำนายดังกล่าวผลปรากฏออกมาแม่นยำอย่างชัดเจน ราคาได้ขยับถึงกรอบด้านล่างที่ 109.54 เมื่อวันอังคาร หลังจากนั้นราคาก็ฟื้นตัวขึ้นมาที่ระดับ 110.75 และกลับไปที่เส้นแนวรับ/แนวต้านในระยะกลางที่โซน 110.00
- คริปโตเคอเรนซี ย้อนกลับไปในช่วงต้นเดือนมิถุนายน ปริมาณเงินทุนในตลาดคริปโตอยู่ที่ $330 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ปัจจุบันอยู่ที่ $283 พันล้านดอลลาร์ กล่าวคือ ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ ตลาดได้ “ทิ้งตัว” ลงมาประมาณ 15% (มากกว่า 50% ตั้งแต่ช่วงต้นปี)
หากคุณดูกราฟ BTCUSD คุณจะสังเกตเห็นภาพเดียวกันสำหรับสัปดาห์ที่เจ็ดนี้ ความพยายามของตลาดกระทิงได้อ่อนล้าลงไม่สามารถทำให้ราคาขยับสูงขึ้นได้ และจากนั้นเป็นกราฟขาลงส่งผลให้ความพยายามทั้งมวลไม่เป็นผล ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงปรับตัวต่ำลงมาที่ระดับ $5,925 โดยบิทคอยน์ได้ขยับถึงจุดต่ำสุดของวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561
การจะพูดถึงสาเหตุของราคาขาลงนี้คงไม่มีผลเท่าใดนัก ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นผลมาจากการตัดสินใจเชิงลบของธนาคารสักแห่ง หรือการแฮ็คข้อมูลตลาดคริปโต เหตุผลทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้ราคาคริปโตสกุลหลัก “จม” ลงมาอีกหลายร้อยดอลลาร์ อัลท์คอยน์สกุลอื่นๆ ที่ติดสิบอันดับในตลาดคริปโต ไม่ว่าจะเป็น Ethereum Ripple Litecoin และอื่นๆ ก็ต่างเดินตามรอยกราฟบิทคอยน์ส่งผลลบต่ออารมณ์ตลาดในขณะนี้
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะช่วยผลักดันให้ราคา EUR/USD ขยับสูงขึ้นไปนั้น เราสามารถเน้นย้ำได้เพียงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อหรือ PMI ของฝั่งยูโรโซนที่ปรับตัวสูงขึ้นมาเล็กน้อย จึงส่งผลอย่างชัดเจนว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญจำนวน 55% จึงให้คำทำนายอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก โดยระบุว่าโซน 1.1725 – 1.1750 เป็นเป้าหมาย ดัชนีส่วนใหญ่ในกรอบ H4 ให้สัญญาณสีเขียว แต่มีออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% ที่บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป
นักวิเคราะห์จำนวน 45% ที่เหลือต่างมั่นใจว่าแนวโน้มขาขึ้นของค่าเงินยูโรเป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวเท่านั้น และราคาน่าจะทดสอบระดับ 1.1500 อีกครั้งหนึ่ง ในกรณีที่ทะลุได้สำเร็จ ราคาจะถอยต่ำลงมาอีก 100 จุด
แต่การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ให้ทางเลือกที่ประนีประนอมมากกว่า โดยคาดการณ์ว่าราคาจะขยับลงมาที่โซน 1.1450 – 1.1500 ในตอนต้นและจากนั้นจึงจะปรับตัวสูงขึ้นไปที่ 1.1840 - เทรนด์หลักสำหรับคู่ GBP/USD ในขณะนี้เป็นผลมาจากนักเศรษฐศาสตร์เจ้าหน้าที่อาวุโสในธนาคารกลางอังกฤษซึ่งให้คะแนนเสียงสนับสนุนการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ธนาคารยังประเมินสภาพเศรษฐกิจอังกฤษในทิศทางบวกอีกด้วย โดยรวมแล้วชี้ให้เห็นถึงความพร้อมที่จะลดปริมาณเงินหลังจากการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นไปที่ 1.5% (จากเดิม 0.5% ของวันนี้) คำแถลงการณ์ที่ดู “มั่นใจ” ดังกล่าวส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% คาดการณ์ว่าแนวโน้มขาขึ้นจะดำเนินต่อไปและราคาน่าจะปรับตัวไปอยู่ที่โซน 1.3350 – 1.3450
นักวิเคราะห์อีก 35% ที่เหลือดูอยู่ในกลุ่มนักทฤษฎีสมคบคิดและเชื่อว่าคำแถลงการณ์ทั้งหลายจากธนาคารนั้นเป็นเพียงความพยายามที่จะหนุนค่าเงินปอนด์ซึ่งได้อ่อนค่าลงกว่า 1,000 จุดตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และจากนี้ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มนี้มองว่าราคาขาลงจะดำเนินต่อไปและราคาจะขยับถึงระดับ 1.3100 ในอนาคตอันใกล้ โดยมีระดับแนวรับถัดไปต่ำลงมาอีก 100 จุด - สำหรับคู่ USD/JPY ความเห็นของนักวิเคราะห์แบ่งออกเป็นสองกลุ่มเท่ากัน ครึ่งแรกทำนายแนวโน้มขาขึ้น อีกครึ่งหนึ่งทำนายแนวโน้มขาลง โดยทั้งสองกลุ่มต่างบ่งชี้สภาพความผันผวนที่ลดลงในตลาด มีระดับแนวรับที่ 109.85 และ 109.50 ค่าแนวต้านที่ 110.25 และ 110.60 ส่วนการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 เห็นด้วยกับผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้โดยระบุว่าราคาจะค่อยๆ แข็งตัวมาอยู่ที่โซน 110.10
ทั้งนี้ ควรคำนึงว่ามีออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% ให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป โดยเป็นสัญญาณว่าราคาน่าจะปรับตัวขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ - คริปโตเคอเรนซี ดูเหมือนว่าเวลาสำคัญกำลังใกล้เข้ามา เมื่อผู้สร้างตลาดจะต้องตัดสินใจว่าราคาบิทคอยน์ควรจะดิ่งลงอย่างต่อเนื่องหรือว่าแนวโน้มจะเป็นขาขึ้น หากราคา BTC/USD สามารถขยับผ่านระดับแนวรับที่โซน $5,900 – 6,100 อย่างราบรื่น ก็จะมีความเป็นไปได้สูงว่าภายในเวลาอีกสักระยะราคาจะขยับมาใกล้ระดับ $4,300 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาขยับอยู่เป็นระยะเวลานานในเดือนสิงหาคม – กันยายนของปีที่แล้ว
หากราคาไม่สามารถตัดผ่านเส้นแนวรับดังกล่าว แรงกระทิงจะพยายามอย่างมากเพื่อผลักราคาบิทคอยน์ขึ้นไปสู่ราคาสูงสุดของเดือนพฤษภาคมและอาจจะแตะถึงระดับ 10,000 ได้สำเร็จ
การต่อสู้ในตลาดสกุลเงินดิจิทัลคาดการณ์ว่าจะเป็นเรื่องจริงจังในอนาคตอันใกล้นี้ และในกรณีที่มีความไม่แน่นอนสูง ย่อมเป็นไปได้ว่านักเทรดเงินคริปโตจะไม่รอคอยจนกว่าเทรนด์กำลังแรงจะปรากฏ แต่การเทรดสั้นวันต่อวันนั้นเป็นสิ่งที่น่าให้ความสนใจมากกว่าซึ่งไม่เฉพาะกับบิทคอยน์เท่านั้น แต่รวมถึงอัลท์คอยน์สกุลอื่นๆ เช่นกัน
โรมัน บุทโก, NordFX
กลับ กลับ