อันดับแรกเป็นบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD คำทำนายสำหรับคู่สกุลนี้ปรากฏออกมาถูกต้องอย่างชัดเจน ในครั้งที่แล้วเป็นที่คาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นเล็กน้อยไปยังระดับแนวต้านที่ 1.1800 (ในความเป็นจริง ราคาขยับขึ้นไปที่ 1.1790) ก่อนที่จะถอยลงมา (ถอยลงมาที่ระดับ 1.1620) หลังจากนั้นตามมาด้วยการรีบาวด์ทำให้ราคาปิดตลาดวันทำการในโซนแนวรับ/แนวต้านที่ 1.1685
- GBP/USD แม้ว่าความผันผวนจะปรากฏออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 ก็ได้ให้คำทำนายแนวโน้มหลักสำหรับคู่นี้ไว้อย่างค่อนข้างถูกต้อง โดยคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวสูงขึ้นมาที่โซน 1.3400 (ในความเป็นจริง ราคาได้ขยับขึ้นไปที่ 1.3360) และจากนั้นคาดว่าราคาน่าจะถอยลงมาอย่างรวดเร็วที่ 1.3000 (ในความเป็นจริงราคาตกลงมาอยู่ที่ 1.3100)
ตามที่คาดการณ์ไว้ว่าค่าเงินปอนด์จะได้รับผลกระทบจากการตัดสินใจของรัฐบาลอังกฤษ ในสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีการต่างประเทศ นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีคนหลักในเรื่อง Brexit และนายเดวิด เดวิส เลขาธิการด้าน Brexit
ได้ประกาศลาออกซึ่งส่งผลเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์ - USD/JPY แม้ว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และความต้องการถือค่าเงินเยนที่สูงขึ้นเพื่อเป็นที่ลี้ภัย นโยบายทางการเงินที่ผ่อนปรนของธนาคารกลางญี่ปุ่นยังสวนทางกับค่าเงินประเทศ สาเหตุที่ทำให้ค่าเงินเยนถดถอยต่ำลงเนื่องมาจากราคาหุ้นบริษัทเอเชียที่เพิ่มมากขึ้น ได้แก่ ดัชนี Nikkei และ MSCI Asia Pacific ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักทั้ง 10 สกุล โดยเสียมูลค่ามากกว่า 240 จุด ต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
ในช่วงท้ายห้าวันทำการ ราคาเกิดการปรับตัวตามปกติและปิดตลาดอยู่ที่ 112.35 - คริปโตเคอเรนซี เราได้เตือนว่าในกรณีที่มีข่าวลบประกาศออกมา แนวโน้มราคาขาขึ้นของบิทคอยน์อาจเปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลงได้อย่างรวดเร็วโดยอาจทำให้ราคากลับไปอยู่ที่ราคาต่ำสุดของเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ เป็นที่พูดคุยกันหลายครั้งว่าจริงๆ แล้วข่าวต่างๆ ล้วนเป็นเพียงข้ออ้างที่ช่วยให้นักเก็งกำไรรายใหญ่สามารถส่งผลให้ราคาขึ้นหรือลง เช่น เหตุใดการโจรกรรมแพล็ตฟอร์มของสวิส Bancor จำนวน $23.5 ล้าน (หรือ $13.5 ล้านตามแหล่งข่าวอื่นๆ) จึงส่งผลต่อตลาดโดยรวมได้? แน่นอนว่ามันไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตาม ราคาบิทคอยน์ได้ถอยลงมาเกือบ 11% ซึ่งส่งผลต่อสกุลเงินดิจิทัลทางเลือกอื่นๆ เช่นกัน
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD ออสซิลเลเตอร์ทั้งในกรอบ H4 และ D1 ต่างไม่สามารถชี้วัดอนาคตของคู่นี้ได้อย่างชัดเจน หนึ่งในสามของสัญญาณเป็นสีเขียว หนึ่งในสามเป็นสีแดง และอีกหนึ่งในสามเป็นสีเทา ในส่วนนักวิเคราะห์กว่า 80% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดนการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 เชื่อว่าราคาคู่นี้จะยังคงมุ่งหน้าเคลื่อนที่ไปที่ระดับ 1.1500 ต่อไป โดยมีระดับแนวรับที่ 1.1625 1.1590 และ 1.1550
การประชุมระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐฯ และรัสเซียที่จะมีขึ้นในวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคมนี้ อาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญไม่คาดว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญเป็นพิเศษจากการประชุมดังกล่าว แต่หากผู้นำทั้งสองคนแสดงออกถึงทัศนคติที่ดีในการประชุมก็อาจจะเป็นผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้
มุมมองทางเลือกอีกมุมมองหนึ่งเป็นของฝั่งนักวิเคราะห์จำนวน 20% ที่เชื่อว่าราคาอาจจะพยายามทดสอบระดับ 1.1790 อีกครั้งหนึ่ง และหากทำได้สำเร็จ ราคาจะวิ่งขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน 1.1830 - GBP/USD การประกาศลาออกของเสาหลักเรื่องการเจรจา Brexit ทั้งสองคนนั้น หมายความว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ ได้เลือกทางเลือกที่ผ่อนปรนที่จะให้อังกฤษออกจากอียู และหากเธอยังรักษาตำแหน่งนี้ต่อไป อาจส่งผลดีต่อค่าเงินปอนด์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบัน ตลาดยังอยู่ในสถานะเป็นลบและนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (70%) ทำนายว่าราคาคู่ GBP/USD จะยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องไปที่ระดับ 1.3100 ในตอนต้น และจากนั้นอาจจะถอยลงมาอีก 50 จุด
สัญญาณจากออสซิลเลเตอร์จำนวน 10% เห็นด้วยกับบทวิเคราะห์ข้างต้น โดยระบุว่าราคาคู่สกุลนี้อยู่ในภาวะที่ถูกซื้อมากเกินไป รวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์กราฟนี้ชี้ให้เห็นว่าราคาอาจขยับอยู่ในช่องด้านข้างในช่วง 1.3190 – 1.3285 อยู่สักระยะ - ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นต่อค่าเงินเยนญี่ปุ่นเช่นกัน ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญมองว่าคู่สกุล USD/JPY จะพยายามขยับถึงราคาสูงสุดของเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในโซน 113.50 โดยเป้าหมายถัดไปคือราคาสูงสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ระดับ 114.75
การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 ก็เห็นด้วยกับภาพการณ์นี้เช่นกัน แต่ในกรอบ D1 กลับให้ภาพที่ตรงกันข้าม โดยชี้ให้เห็นว่าราคาน่าจะถอยกลับไปที่โซน 110.25 – 111.15 และจะปรับตัวลดลงไปอีกที่ระดับแนวรับ 109.35
ทั้งนี้ ควรคำนึงว่าแม้ในขณะนี้ก็มีนักวิเคราะห์หลายท่านที่แสดงความเห็นให้ระมัดระวังกับค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากตามบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ดูเหมือนว่าราคานั้นกำลังอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป (overbought) - คริปโตเคอเรนซี: ในบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่แล้ว เราได้รวบรวมปัจจัยที่อาจส่งผลดีต่อแนวโน้มขาขึ้นของคู่ BTC/USD ส่วนในครั้งนี้ เราจะมากล่าวถึงด้านลบกันบ้าง
จริงๆ แล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วค่อนข้างชัดเจนว่าแนวโน้มขาขึ้นของบิทคอยน์กำลังลดทอนลง โดย ณ ตอนนี้ มูลค่าตลาดเริ่มเข้าใกล้จุดต่ำสุดของปี 2561 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ $240 พันล้านเหรียญดอลลาร์ หากราคายังคงอ่อนค่าลงต่อไปตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญบางกลุ่ม อาจส่งผลให้เงินดิจิทัลสกุลนี้เข้าสู่ภาวะตกต่ำ และราคาบิทคอยน์อาจตกมาอยู่ที่ประมาณ $3,000 และมูลค่าตามตลาดจะไม่เกินครึ่งของมูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน
ในขณะเดียวกัน คู่สกุลเงิน BTC/USD อยู่ในช่วงการซื้อขายตรงกลางระหว่างราคาต่ำสุดของเดือนมิถุนายน (5,790) และราคาสูงสุดของเดือนกรกฎาคม ($6,830) และหากไม่มีเหตุการณ์พิเศษใดๆ เกิดขึ้น ราคาอาจจะอยู่ในช่วงดังกล่าวนี้ต่อไปเป็นเวลาอีกสองหรือสามสัปดาห์
โรมัน บุทโก, NordFX
กลับ กลับ