อันดับแรกเป็นบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD สัปดาห์ที่ผ่านมาเต็มไปด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งหากเกิดขึ้นในช่วงเวลาอื่นก็อาจจะส่งผลต่อตลาดเป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ตอนนี้ที่ยังอยู่ในช่วงฤดูวันหยุด เราไม่ได้คาดการณ์ว่าจะมีการประกาศดัชนีตัวเลขใดๆ ที่น่าประหลาดใจจากทั้งค่า GDP ของฝั่งยูโรโซน หรือจากทางตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค เราได้มีความหวังเล็กน้อยกับตัวเลขอัตราดอกเบี้ยของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ และการประกาศข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ แต่ก็ไม่ปรากฏความผันผวนพิเศษแต่อย่างใดเช่นกัน แม้ว่าตัวเลขดัชนีนอนฟาร์มจะลดลงมา 36.7% (จาก 248K ลดลงมาที่ 157K) ก็ไม่ส่งผลอันเป็นที่น่าประทับใจต่อตลาดเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์จึงเป็นไปตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ไว้ โดยราคาอยู่ในช่วงโซนสองสัปดาห์ที่ 1.1575-1.1750 โดยขยับถึงจุดสูงสุดที่ 1.1745 ก่อนที่ทิ้งตัวลงมาที่ 1.1560 และปิดตลาดห้าวันทำการที่ระดับ 1.1567 - GBP/USD อนาคตของค่าเงินปอนด์ก็ไม่เกื้อหนุนเช่นกัน แม้ว่าทางธนาคารกลางอังกฤษอาจปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่ผู้เชี่ยวชาญ 65% มองว่า GBP/USD จะยังคงปรับตัวลดลงไปที่โซน 1.3000
คำทำนายดังกล่าวปรากฏออกมาว่าถูกต้องอย่างชัดเจน ในช่วงที่ธนาคารฯ กำลังจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ค่าเงินปอนด์ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างช้าๆ และก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม ธนาคารกลางอังกฤษดำเนินการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 0.50% เป็น 0.75% แต่จากคำกล่าวรายงานก็ทำให้ทราบอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้อันเนื่องมาจากสภาวะเศรษฐกิจและปัญหาเรื่องกรณี Brexit ด้วยเหตุนี้ ราคาจึงวกกลับและถอยลงมาที่ระดับ 1.2975 อย่างรวดเร็ว และปิดตลาดท้ายสัปดาห์ ณ ระดับเดียวกันกับที่ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ไว้ที่ 1.3000 - USD/JPY การรายงานเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นทำให้ค่าเงินเยนตกต่ำลงแทนที่จะแข็งค่าขึ้น อันเนื่องมาจากคำแถลงการณ์ของนายฮารูฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารกลางฯ ถูกตีความโดยตลาดว่าธนาคารกลางฯ มีความประสงค์จะคงไว้ซึ่งนโยบายผ่อนปรนเป็นอย่างมากและจะกระตุ้นค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงโดยเพิ่มผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะ 10 ปี
ด้วยเหตุนี้ ราคา USD/JPY จึงกระโดดขึ้นมาที่ 112.15 อย่างไรก็ตาม คู่สกุลดังกล่าวไม่สามารถตั้งหลักได้ที่ระดับนี้และถอยลงมาประมาณ 90 จุด จนปิดตลาดที่ระดับ 111.25 - คริปโตเคอเรนซี ตลาดเงินคริปโตถูกครอบงำโดยตลาดหมีตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยบิทคอยน์และอัลท์คอยน์สกุลหลักอื่นๆ ก็อยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไปจึงเกิดแนวโน้มขาลง และด้วยในสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่ปรากฏข่าวเชิงบวกใดๆ จากธนาคารกลางฯ และตัวแสดงในตลาดจึงไม่ช่วยให้ราคาขยับขึ้นมาเช่นกัน
ดังนั้น ราคา BTCUSD ถอยลดลงมาประมาณ $1000 เสียมูลค่า 12% ในระหว่างสัปดาห์และขยับไปที่ราคาของกลางเดือนกรกฎาคมที่ประมาณ $7,280 ต่อเหรียญ
ราคา Ethereum เสียมูลค่ามากกว่าบิทคอยน์อยู่ที่ 14% และขยับทะลุลงมาที่แนวรับ $400 ในบางช่วง ในขณะที่ Litecoin เสียมูลค่า 11% แต่ Ripple มีเสถียรภาพมากกว่าโดยลดลงมาเพียง 7% ก่อนที่จะกลับตัวและฟื้นขึ้นมาอีก 2.5%
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD ในสัปดาห์หน้าคาดว่าจะไม่มีเหตุการณ์สำคัญใดๆ ที่สามารถส่งผลต่ออารมณ์ของตลาดได้อย่างรุนแรง ดัชนีหลายตัวแสดงให้เห็นถึงการขาดกิจกรรมอย่างสิ้นเชิง ดัชนี MACD ในกรอบ D1 เกือบจะขยับต่ำกว่าระดับศูนย์เล็กน้อยในรอบสัปดาห์ที่สี่ โดยสัญญาณออสซิลเลเตอร์จำนวน 85% จากทั้งหมดเป็นสีแดง และอีก 15% ก็ให้สัญญาณแล้วว่าราคาอยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป
ในส่วนผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟ ยังคงเชื่อว่าราคาสามารถขยับถึงกรอบด้านล่างของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1505-1.1850 และจากนั้นถึงจะปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญอีก 30% ให้คะแนนเสียงว่าราคาจะขยับในช่องแคบๆ ในรอบสามสัปดาห์ที่ 1.1575-1.1750 - สถานการณ์สำหรับอนาคตของค่าเงินปอนด์ก็ติดลบเช่นกัน นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (70%) กำลังรอคอยให้คู่ GBP/USD ตกลงมาที่ราคาต่ำสุดของฤดูร้อนปี 2560 ในโซน 1.2800 มุมมองนี้ได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาณออสซิลเลเตอร์ทั้งหมด (ยกเว้นหนึ่งสัญญาณ) และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 โดยมีระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุดที่ 1.2955 และแนวรับถัดไปอยู่ต่ำลงมา 100 จุด
มุมมองอีกด้านหนึ่งเป็นของทางฝั่งผู้เชี่ยวชาญจำนวน 30% ซึ่งเชื่อว่าราคาคู่นี้ได้ขยับอยู่ในช่องด้านข้าง 1.2955-1.3210 และแนวต้านที่ใกล้ที่สุดจะอยู่บริเวณ 1.3100 - USD/JPY สำหรับคู่นี้มีผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (75%) สนับสนุนว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น แม้ว่าราคาจะตกต่ำลงมาในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว ราคาคู่นี้ก็ยังคงอยู่ในช่องขาขึ้นระยะกลางซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและขณะนี้อยู่ที่เส้นแนวรับ เป้าหมายถัดไปสำหรับคู่นี้จะเป็นราคาที่ระดับ 112.00 และเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 113.15
หากในกรณีที่ตลาดหมีเป็นผู้ชนะ คาดว่าราคาน่าจะถอยลงมาทิศใต้ ในกรณีดังกล่าว ระดับแนวรับจะอยู่ที่ 110.60, 110.30 และ 109.75 ทั้งนี้ ควรคำนึงว่าเมื่อเปลี่ยนจากคำทำนายรายสัปดาห์เป็นคำทำนายจนถึงช่วงท้ายฤดูร้อน จำนวนนักวิเคราะห์ผู้ที่สนับสนุนสถานการณ์ดังกล่าวเพิ่มมากขึ้นจาก 25% เป็น 45%
ในส่วนการวิเคราะห์กราฟให้คำทำนายที่ประนีประนอมมากกว่า โดยชี้ว่าในตอนต้นราคาจะถอยลงมาที่ระดับ 110.60 และจากนั้นจะขยับขึ้นไปที่ 112.00
- คริปโตเคอเรนซี ผู้สนับสนุนทฤษฎี Elliot Wave สามารถสังเกตเห็นช่วงท้ายของคลื่นที่ 5 ของคู่ BTC/USD ที่ราคาสูงสุดของวันที่ 25 กรกฎาคม ดังนั้น ราคาที่ถอยลงมาจึงเป็นคลื่น A ถักมา หลังจากนั้นคาดว่าตลาดจะมีการปรับตัวของราคาเป็นคลื่น B และขยับขึ้นไปที่โซน 7,800-8,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ เป้าหมายที่ดูเป็นบวกมากที่สุดสำหรับช่วงครึ่งแรกของเดือนสิงหาคมนี้คือการไต่ขึ้นไปที่ $10,000
อย่างไรก็ตาม ดัชนีหลักทั้งหลาย ทั้งดัชนีเทรนด์และปริมาณ รวมถึงออสซิลเลเตอร์ต่างๆ ยังไม่ให้สัญญาณที่ชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ใดๆ ในกรอบ D1 และ W1 ดังนั้น ในกรณีที่ราคาทะลุตัดระดับ $7,300 ลงมา จึงมีความเป็นไปได้ว่าราคาจะถอนลงมาที่ระดับ $6,700 โดยมีแนวรับหลักอยู่ที่โซน $6,000-6,100 ซึ่งเป็นระดับที่การขุดบิทคอยน์แทบจะไม่ทำกำไรอีกต่อไป
ตามทฤษฎีแล้ว หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ราคาถอยตกต่ำลงมาในปี 2561 นี้คือบรรดานักขุดเงินคริปโต จำนวนนักขุดที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ระบบอัลกอริทึมของการขุดเงินมีความซับซ้อนขึ้นเป็นอย่างมาก และเมื่อราคาบิทคอยน์ลดลง โอกาสการทำกำไรจากการขุดเงินคริปโตก็ลดลงเช่นกัน เจ้าของฟาร์มขุดเงินคริปโตก็เริ่มกำจัดเหรียญที่ได้ขุดไว้ ดังนั้นจึงส่งผลเสียต่อตนเองอย่างแท้จริง
โรมัน บุทโก, NordFX
กลับ กลับ