อันดับแรกเป็นบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD ค่าเงินดอลลาร์อยู่ภายใต้ความกดดันมาตลอดห้าวัน ค่าความต่างระหว่างราคาสูงสุดประจำสัปดาห์และราคาต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 200 จุด ทั้งนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นพิเศษจากงานแถลงข่าวการประชุมของธนาคารกลางยุโรป แผนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของยูโรโซนยังคงไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลง ดังนั้น เหตุผลหลักที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงถือว่าเกิดจากภาวะเงินฝืดในทางฝั่งสหรัฐฯ โดยผู้เชี่ยวชาญเรียกสิ่งนี้ว่า “ฝันร้ายของเฟ็ด” และอีกเหตุผลหลักก็คือการตัดสินใจของธนาคารกลางตุรกีในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 625 จุด ส่งผลให้ค่าเงินลีราแข็งค่าขึ้นและมีส่วนผลักดันค่าเงินยูโรขึ้นอีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ากรอบด้านบนของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1530-1.1745 เป็นเพดานสำหรับราคาขาขึ้นของ EUR/USD ในสัปดาห์ที่ผ่านมา คำทำนายดังกล่าวปรากฏออกมาว่าถูกต้องอย่างสมบูรณ์ โดยราคาสูงสุดอยู่ที่ 1.1725 และราคาปิดตลาดห้าวันทำการอยู่ที่ระดับ 1.1622 - GBP/USD โดยทั่วไป กราฟรายสัปดาห์ของคู่นี้จะมีความคล้ายคลึงกับคู่ EUR/USD เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กันยายน ค่าเงินปอนด์อังกฤษได้ขยับสูงขึ้นไปที่ 1.3147 ถึงระดับสูงสุดในรอบหกสัปดาห์ ประธานธนาคารกลางอังกฤษ นายมาร์ค คาร์นีย์ มีส่วนช่วยเหลือคู่สกุลนี้ เขามองว่าความขัดแย้งในเรื่อง Brexit จะส่งผลให้เกิดวิกฤติที่จะนำไปสู่การอ่อนค่าลงของเงินปอนด์ และจะยิ่งทำให้ระดับเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งจะบังคับให้ธนาคารกลางอังกฤษต้องปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ในส่วนสำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาปิดตัวอยู่ใกล้ที่ระดับ 1.3065
- USD/JPY คำทำนายจากการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ชี้ว่าราคาคู่นี้น่าจะขยับไปที่ความสูง 112.15 และเป็นที่ระดับนี้ที่ราคาไต่ขึ้นไปถึงในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ ควรให้ความสนใจว่าในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อสกุลอื่นๆ ค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนญี่ปุ่น เหตุผลหลักน่าจะเกิดจากการคาดการณ์สงครามทางการค้าของสหรัฐฯ ที่จะเริ่มขึ้นและการที่ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาน้ำมันจากอิหร่านเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ราคาคู่นี้จึงขยับสูงขึ้นประมาณ 100 จุดในช่วงห้าวันทำการที่ผ่านมา
- คริปโตเคอเรนซี ตามที่คาดการณ์ไว้ ในช่วงต้นสัปดาห์ ตลาดหมีพยายามจะตัดผ่านระดับ $6,000 แต่ก็ไม่สามารถขยับลงต่ำกว่าโซนทำกำไรของบิทคอยน์ได้สำเร็จ เมื่อราคาได้ขยับถึงระดับดังกล่าว บิทคอยน์ก็ถูกตามซื้อ และราคา BTC/USD ก็ขยับขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่มีแรงผลักดันหรือเหตุผลเกื้อหนุนต่อการเติบโตของราคาแต่อย่างใด ราคาขยับอยู่ในช่วง 6,120-6,590
ในส่วนของ Ethereum (ETH/USD), Litecoin (LTH/USD) และ Ripple (XRP/USD) การเคลื่อนที่ของคู่เหล่านี้ถือว่าเป็นการเคลื่อนที่ด้านข้าง โดยหลังจากที่ราคาลดตัวลงในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาก็สามารถฟื้นคืนตำแหน่งได้ในช่วงท้ายของห้าวันทำการ
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD จากมุมมองการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ไม่มีเหตุการณ์พิเศษใดๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะไม่มีข่าวที่น่าประหลาดใจจากการประกาศสถิติจากฝั่งยุโรปในวันจันทร์ รวมถึงคำแถลงของนายมาริโอ ดรากิห์ ประธานธนาคารกลางยุโรป ในวันอังคารนี้ ออสซิลเลเตอร์ส่วนใหญ่ (60%) ให้สัญญาณเป็นสีเทากลาง ในขณะที่สัญญาณสี “เขียว” มีมากกว่าเล็กน้อยอยู่ที่ 30% และสัญญาณสี “แดง” มีเพียง 10% ในส่วนผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าจะเป็น “ตลาดกระทิง” อยู่ที่ประมาณ 55% ที่มองว่าราคาน่าจะขยับขึ้นโดยราคาจะขยับไปอยู่ที่โซน 1.1745-1.1845
การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 เชื่อว่าราคาคู่นี้จะยังคงขยับอยู่ในแนว 1.1525-1.1745 โดยมี Pivot Point ในโซน 1.1630 แต่ในกรอบ D1 ชี้ว่ายังมีโอกาสที่ราคาจะขยับลงมาที่ราคาต่ำสุดของเดือนสิงหาคมที่โซน 1.1300 - GBP/USD ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 60% ได้รับแรงบันดาลใจจากนายมาร์ค คาร์นีย์ รวทถึงการสนับสนุนจากออสซิลเลเตอร์ส่วนใหญ่ ดัชนีเทรนด์ และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 เชื่อว่าราคาคู่นี้จะยังคงขยับสูงขึ้นต่อไปในโซน 1.3210-1.3315
20% ของนักวิเคราะห์มีท่าทีเป็นกลาง และอีก 20% มีความเชื่อมั่นว่าค่าเงินดอลลาร์จะฟื้นตัวและราคาคู่นี้จะขยับลงไปที่แนวรับ 1.2955 และ 1.2800 เป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ราคาต่ำสุดวันที่ 15 สิงหาคมที่ระดับ 1.2660 สถานการณ์นี้ได้รับการสนับสนุนโดยออสซิลเลเตอร์ 10% ซึ่งให้สัญญาณว่าราคาคู่นี้ถูกซื้อมากเกินไป สำหรับการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ระบุว่าราคาคู่นี้สามารถขยับขึ้นไปที่ระดับแนวต้าน 1.3210 ก่อนที่จะกลับตัวลงมาในทิศใต้
- USD/JPY การก่อตัวของเทรนด์อาจได้รับอิทธิพลจากการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นในวันพุธที่ 19 กันยายน และการตัดสินใจในอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตอนนี้เป็นลบและอยู่ที่ -0.1%
แน่นอนว่าหลายอย่างจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงความต้องการของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเปิดสงครามการค้าอีกรอบ แต่ในครั้งนี้เป็นสงครามกับญี่ปุ่น ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดความเห็นของตลาดโดยรวมว่าจะยังคงถือว่าเงินเยนเป็นสกุลเงินลี้ภัยต่อไปหรือไม่
ในขณะนี้ มีนักวิเคราะห์ 50% ที่โหวตว่าราคาจะกลับมาที่โซน 111.00 ในตอนต้น และจากนั้นราคาจะกลับมาที่แนวรับ 110.35 โดยมีออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% เห็นด้วยกับคำทำนายนี้และให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป
ในอีกมุมมองหนึ่งชี้ว่าราคาจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 113.20 ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 35% ออสซิลเลเตอร์จำนวน 85% และดัชนีเทรนด์ 100% ในกรอบ H4 และ D1 ในส่วนนักวิเคราะห์อีก 15% ไม่ออกความเห็นใดๆ - คริปโตเคอเรนซี: การที่ราคา BTC/USD อยู่ในช่วงระหว่าง $6,000 และ $7,000 แสดงว่าตลาดกำลังถูกครอบครองโดยนักเก็งกำไรระยะสั้น ในขณะที่ผู้เล่นระยะยาวยังคงต้องถือตำแหน่งรอดูต่อไป แต่ก็ยังมีความสนใจเป็นอย่างมากในคริปโตเคอเรนซี แต่ก็เฉพาะผู้ร่วมตลาดกลุ่มนี้เท่านั้นที่สามารถริเริ่มผลักดันการไหลเข้าของเงินทุนครั้งใหม่ในตลาดนี้ ในขณะเดียวกัน มูลค่ารวมของตลาดผันผวนอยู่ที่ประมาณ $2 แสนล้านเหรียญ และทำให้เกิดมูลค่ารวมต่ำสุดหลายครั้ง โดยเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา มูลค่ารวมอยู่ที่ระดับ $1.86 แสนล้าน หลังจากนั้นตลาดกลับมาอยู่ที่ $2 แสนล้าน ทั้งนี้ ยังคงมีโอกาสว่าเราจะได้เห็นความพยายามของตลาดหมีที่จะตัดทะลุระดับแนวรับที่ $6,000 ในสัปดาห์หน้านี้ อย่างไรก็ตาม หากบิทคอยน์สามารถตั้งหลักเหนือระดับ 6,620 ได้ ราคาคู่นี้ก็มีโอกาสที่จะกลับไปสู่ราคาสูงสุดของวันที่ 5 กันยายนที่ระดับ 7,410
โรมัน บุทโก, NordFX
กลับ กลับ
