อันดับแรกเป็นบทวิเคราะห์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD ตามที่คาดการณ์ไว้ สัปดาห์ที่แล้วมีปัญหามากมายเกิดขึ้นกับทั้งยูโรและดอลลาร์สหรัฐ ราคาคู่นี้ได้ขยับถึงทั้งกรอบด้านบนและล่างของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1525-1.1830 ในช่วงห้าวันทำการที่ผ่านมา โดยในตอนท้าย ชัยชนะตกเป็นของฝั่งเงินดอลลาร์ เหตุผลก็คือผลการประชุมของธนาคารเฟ็ดประกอบกับอัตราการเติบโตของค่า GDP สหรัฐฯ และระดับเงินเฟ้อในยูโรโซน รวมถึงปัญหาต่างๆ ในอิตาลีที่รัฐบาลได้ประกาศงบประมาณประจำปี 2019 โดยมีการขาดดุล 2.4% (แทนที่ที่คาดการณ์ไว้ 2%) ด้วยเหตุนี้จึงเกิดเป็นความผันผวน 245 จุด และราคาได้ปิดตลาดประจำสัปดาห์ที่ 1.1602
- GBP/USD ในสัปดาห์ที่แล้วผู้เชี่ยวชาญจำนวน 55% ให้คะแนนเสียงว่าราคาคู่นี้ขยับสูงขึ้น ในขณะที่อีก 30% โหวตให้กับแนวโน้มขาลง และผู้เชี่ยวชาญอีก 15% ที่เหลือโหวตให้กับเทรนด์ด้านข้าง ความเหลื่อมล้ำทั้งหมดนี้ปรากฏออกมาว่าถูกต้องเกือบทั้งหมด ราคาได้ขยับสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ถึงระดับสูงสุดที่ 1.3225 และถอยลงมาในช่วงครึ่งหลังจนถึงราคาต่ำสุดในช่วงที่ 1.3000 ทำให้ราคาขยับลงมาเพียง 45 จุดในช่วงห้าวันทำการที่ผ่านมาและปิดตัวที่ 1.3030
- USD/JPY คำทำนายที่นักวิเคราะห์จำนวน 40% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และดัชนีเทรนด์จำนวน 100% ได้โหวตว่าราคาคู่นี้จะไต่ขึ้นไปที่ 113.20-113.75 และในความเป็นจริงราคาก็ได้ขยับขึ้นจริงโดยขึ้นไปสู่ระดับ 113.70
เหตุผลที่ทำให้เงินเยนอ่อนค่าลงก็คือคำแถลงจากนายฮารุนิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารกลางญี่ปุ่น และประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ โดยประธานธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่าธนาคารฯ ไม่ได้วางแผนว่าจะลดการใช้นโยบาย นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ลบ 0.1% อาจถูกปรับให้ลดลงอีก สำหรับนายพาวเวลล์ได้ยืนยันที่การแถลงข่าวว่า นอกจากการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นเมื่อวันพุธที่ 26 กันยายน ธนาคารเฟ็ดได้วางแผนว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นอีกครั้งในปี 2018 นี้และปรับขึ้นอีกสามครั้งในปี 2019
ในสถานการณ์นี้ การตอบสนองของตลาดก็เห็นได้ชัด ค่าเงินดอลลาร์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 113.68 - คริปโตเคอเรนซี ไม่มีข่าวพิเศษใดๆ ที่ส่งผลต่อตลาดเงินคริปโตให้เคลื่อนที่ไปในทิศทางใดอย่างชัดเจนได้ในสัปดาห์ที่แล้ว สกุลเงินคริปโตยอดนิยม 10 อันดับแรกก็เคลื่อนที่ตามๆ กัน โดยในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ ราคาบิทคอยน์ลดลง 7.5% และเพิ่มขึ้น 7.25% ทำให้ราคา BTC/USD ไม่ได้ออกจากช่วง $6,000 และ $7,000 แต่อย่างใดโดยขยับอยู่ในช่วงแคบๆที่ $6,325-6,825 ในขณะที่ไลท์คอยน์ (LTH/USD) และริพเพิล (XRP/USD) ปิดตลาดที่ใกล้เคียงกับระดับเริ่มต้น มีเพียงอีธีเรียม (ETH/USD) ที่ราคาลดลง 8% ในช่วงเจ็ดวันและราคาลงมาที่ $225.0 ต่อเหรียญและขณะนี้อยู่ที่ระดับเดียวกับราคาวันที่ 6-7 กันยายน
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (70%) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยดัชนีเทรนด์จำนวน 95% โหวตว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นต่อไปและราคาคู่นี้จะถอยลงมาตอนแรกที่แนวรับ 1.1525 และต่อมาที่ราคาต่ำสุดของเดือนสิงหาคม 1.1300 ในช่วงเดือนตุลาคมนี้
สถานการณ์อีกมุมมองหนึ่งได้รับการสนับสนุนโดยนักวิเคราะห์จำนวน 30% และออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ให้สัญญาณว่าราคาคู่นี้ถูกขายมากเกินไป หากเราพิจารณาคำทำนายนี้กับสัญญาณการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 เราสามารถสรุปได้ว่าอัตราการเติบโตของราคาคู่นี้จะถูกจำกัดโดยกรอบด้านบนของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1525-1.1830 โดยมีเป้าหมายตลาดกระทิงที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ระดับ 1.1740
สำหรับการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค เราควรให้ความสนใจกับสถิติตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมนี้ ซึ่งได้แก่ ข้อมูลด้านค่าจ้าง การว่างงาน และดัชนีนอนฟาร์ม ทั้งนี้ นักวิเคราะห์อเมริกันมีความเห็นพ้องกันว่าตำแหน่งงานนอกภาคการเกษตรจะมีจำนวนน้อยกว่าตัวเลขของเดือนสิงหาคมที่ 8% ซึ่งอาจส่งผลให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อย
- GBP/USD ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 55% โหวตคะแนนให้กับแนวโน้มขาลงของราคาคู่นี้มาที่ระดับ 1.2900 ในขณะที่อีก 25% โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้นมาที่ช่วง 1.3100-1.3145 และผู้เชี่ยวชาญจำนวน 20% ได้มีท่าทีเป็นกลาง เหตุผลสำหรับจำนวนคะแนนโหวตข้างมากนั้นก็คือการอ่อนค่าลงของเงินปอนด์อังกฤษยังคงมีผลจากสภาพเศรษฐกิจที่ซบเซาลงและความไม่แน่นอนในประเด็น Brexit
การวิเคราะห์ดัชนีต่างๆ หากสัญญาณออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ส่วนใหญ่เป็นสีแดงในกรอบเวลา H4 และมี 30% เป็นสีเขียวในกรอบ D1 ในขณะเดียวกัน มีออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ในทั้งสองกรอบเวลาที่ชี้ว่าราคาคู่นี้ถูกขายมากเกินไป โดยผลการอ่านวิเคราะห์กราฟก็ไม่สอดคล้องกันเช่นกัน ในกรอบ D1 แสดงให้เห็นชัดเจนว่าราคาน่าจะขยับลงมาที่โซน 1.2800-1.2845 และใน H4 สรุปเป็นภาพช่องด้านข้างที่ 1.2980-1.3175 - USD/JPY สำหรับคู่นี้ คะแนนเสียงต่างแบ่งแยกออกเป็นสองฝั่งเท่าๆ กัน ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 50% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และดัชนีเทรนด์จำนวน 100% เชื่อว่าแนวโน้มขาขึ้นยังคงไม่อ่อนกำลังหมดลง และราคาน่าจะขยับขึ้นถึงระดับ 114.50
ผู้เชี่ยวชาญอีกครึ่งหนึ่งคาดว่าจะมีการปรับตัวของราคาครั้งใหญ่และราคาจะตกลงมาที่แนวรับ 112.00 ในส่วนออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% ก็ให้สัญญาณว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป ซึ่งสอดคล้องกับคำทำนายนี้เช่นกัน - คริปโตเคอเรนซี มูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตยังคงไม่เกินระดับ $2.5 แสนล้านดอลลาร์ แต่อัตราการเติบโตของราคาคริปโตเคอเรนซีตัวหลักอยู่ในปริมาณที่ดี ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดกระทิงกำลังฟื้นคืนกำลังอย่างช้าๆ ในส่วน Ripple (XRP) และ Bitcoin Cash (BCH) เป็นอัลท์คอยน์สองสกุลที่มีแรงจูงใจสร้างความหวังต่อนักลงทุนในขณะนี้ ราคา Ripple ขยับขึ้นมากกว่าสองเท่าในช่วงสามสัปดาห์ที่ผ่านมา และ Bitcoin Cash ก็ขยับขึ้น 30%
การโอนอย่างทันทีบนพื้นฐานของโปรโตคอลของ Ripple มีแนวโน้มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องว่าน่าจะ “ได้ประโยชน์” จากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นระบบที่กำลังครอบครองภาคธนาคารในขณะนี้ โดยมีความเห็นว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนดังกล่างได้รับเงินสนับสนุนโดยบริษัทต่างๆ ที่ประสงค์จะซ่อนเงินทุนของบริษัทในรูปแบบ “บริษัทดิจิทัลนอกประเทศ” ซึ่งทำได้โดยทันที เป็นปริมาณมาก และไว้ใจได้ ในทางกลับกัน มุมมองอีกด้านหนึ่งชี้ว่าหน่วยบริการพิเศษของสหรัฐฯ มีเป้าหมายคือการกำกับดูแลอย่างเบ็ดเสร็จในเส้นทางการไหลเวียนของเงินดิจิทัล ทั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทฤษฎีดังกล่าวนี้จริงเท็จเท่าใด แต่ไม่ว่าในกรณีใดๆ สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Ripple ก็มีฐานหนุนรองรับการเติบโตที่ดี
ไม่ว่ามูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตจะใกล้กับระดับ $3 แสนล้านเหรียญดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้หรือไม่ หรือราคาบิทคอยน์จะขยับเกินที่ระดับ $7,000 และพาเงินคริปโตสกุลอื่นๆ ขึ้นไปด้วยกันหรือไม่ ล้วนขึ้นอยู่กับข่าวที่ประกาศออกมา หากไม่มีข่าวดีใดๆ การเคลื่อนที่ของราคาก็จะยังคงอยู่ในช่วง $6,000-7,000 (หรือในช่องที่แคบกว่า $6,325-6,835) ต่อไป
โรมัน บุทโก, NordFX
กลับ กลับ
