อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD หากคุณดูกราฟราคาคู่นี้จะเห็นได้ชัดว่าในช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน กราฟได้กลับไปอยู่ที่ระดับราคาในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน กล่าวคือ ผลลัพธ์ความเคลื่อนไหวของราคาแทบจะเป็นศูนย์ และชัยชนะของคำทำนายที่แม่นยำมากที่สุดตกเป็นของฝั่งดัชนีเทรนด์และออสซิลเลเตอร์ในกรอบ D1 ซึ่งให้คำทำนายที่เป็นกลาง
สำหรับผู้เชี่ยวชาญ หนึ่งในสามได้ทำนายว่าราคาจะปรับตัวต่อไปที่ระดับ 1.1450-1.1550 (โดยราคาสูงสุดในรอบสัปดาห์จริงๆ แล้วอยู่ที่ 1.1470) ตามมาด้วยการกลับตัวในขาขึ้นของค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นจริงในเวลาต่อมาทำให้ราคาปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 1.1330 - GBP/USD ผลลัพธ์ของคู่นี้ในสัปดาห์ที่แล้วคล้ายกันกับผลของคู่ EUR/USD ก็คือความแตกต่างแทบเป็นศูนย์ เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการยุโรปได้อนุมัติปฏิญญาทางการเมืองว่าด้วยเรื่อง Brexit จนดูเหมือนว่าค่าเงินปอนด์มีแนวโน้มที่พลิกสถานการณ์ฟื้นตัวขึ้นมาได้ ราคาจึงได้ขึ้นมา 150 จุดที่ระดับ 1.2925 แต่ความดีใจดังกล่าวก็เป็นเพียงชั่วคราว เนื่องจากราคาปิดตลาดรอบห้าวันทำการที่โซน 1.2810
- USD/JPY ว่าด้วยอนาคตของคู่นี้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างแบ่งออกเป็นสองกลุ่มเท่าๆ กัน มี 45% ที่โหวตให้กับแนวโน้มขาลง อีก 45% ที่โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้น และอีก 10% ได้มีท่าทีเป็นกลาง ทุกฝ่ายต่างทำนายได้ถูกต้อง โดยราคาได้ตกลงมาในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับขึ้นมาจนแสดงผลเป็นศูนย์ในช่วงท้ายสัปดาห์ ราคากลับมาอยู่ที่จุด Pivot Point ในโซน 112.90 สำหรับระดับแนวรับ/แนวต้าน การวิเคราะห์กราฟเป็นฝ่ายที่ให้คำทำนายที่แม่นยำมากที่สุด โดยระบุไว้ว่าราคาจะขยับขึ้นเพดานด้านบนของช่องที่ 113.10 ในกรอบ H4 (ในความเป็นจริงราคาขยับไปที่ 113.14) และถอยลงมาที่ 112.65 ในกรอบ D1 (ในความเป็นจริงราคาต่ำสุดของสัปดาห์อยู่ที่ 112.30)
- สำหรับคริปโตเคอเรนซี มีคำทำนายสองรูปแบบในครั้งที่แล้วด้วยกัน ได้แก่ คำทำนายเป็นกลาง และคำทำนายที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก โดยธรรมชาติแล้ว คำธรรมนายที่สองปรากฏออกมาถูกต้อง ความตื่นตระหนกจากการแบ่งเหรียญฮาร์ดฟอร์กของ BCH (Bitcoin Cash) นำไปสู่เหรียญใหม่สองสกุลก่อให้เกิดแรงกดดันในตลาด ด้วยเหตุนี้ ราคาบิทคอยน์จึงตกลงมายิ่งกว่าเดิมจนถึงระดับราคาเมื่อเดือนกันยายนของปีที่แล้วที่โซน $4,210-4,250 และฉุดราคาเงินคริปโตสกุลอื่นๆ ตามลงไปด้วย ดัชนีราคา 5 อันดับแรกจึงเสียมูลค่ากว่า 500 จุด หรือประมาณ 25% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่สามารถส่งผลต่อราคาทั้งยูโรและปอนด์อังกฤษ จะเป็นงานประชุมพิเศษระหว่างผู้นำยุโรปเกี่ยวกับประเด็น Brexit ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายนนี้ ในกรณีที่ผลลัพธ์การประชุมเป็นบวก ราคาอาจขยับกลับขึ้นไปที่ราคาสูงสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ 1.1470 และ 1.1500 อย่างไรก็ตาม มีผู้เชี่ยวชาญน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง (40%) ที่เห็นด้วยกับสถานการณ์ดังกล่าว สำหรับผู้เชี่ยวชาญอีก 60% ที่เหลือมองว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น โดยในวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน ตลาดจะรอฟังตัวเลขค่า GDP ไตรมาสที่ 3 จากสหรัฐฯ และหากตัวเลขดังกล่าวปรากฏออกมาว่าดีขึ้นและสูงกว่าไตรมาสที่สอง ดัชนีนี้จะช่วยเป็นปัจจัยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ นักเทรดควรให้ความสนใจในผลลัพธ์การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน แม้ว่าไม่น่าจะเหตุการณ์พิเศษที่น่าประหลาดใจใดๆ ก็ตาม
เป้าหมายของตลาดหมีในที่นี้อยู่ที่ 1.1300 และราคาต่ำสุดของปี 2018 คือ 1.1215 ในกรณีที่ราคาตัดทะลุผ่านจะเกิดเส้นแนวรับที่ระดับ 1.1120
หากเราพูดถึงการอ่านดัชนี มีออสซิลเลเตอร์จำนวน 15% ในกรอบ H4 ที่ให้สัญญาณว่าราคาถูกขายมากเกินไป (oversold) ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการปรับตัวของราคาในระยะสั้น - GBP/USD ดัชนีเกือบ 100% ให้สัญญาณเป็นสีแดง แต่เทรนด์ในอนาคตยังไม่สามารถระบุได้โดยแน่ชัด ผลการตัดสินใจในการประชุมสุดยอดผู้นำอียู-Brexit แน่นอนว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อค่าเงินปอนด์ แต่มีบททดสอบที่สำคัญมากกว่านั้น ซึ่งก็คือ ข้อตกลงการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติเห็นชอบโดยรัฐสภาอังกฤษ และมีโอกาสค่อนข้างมากที่สมาชิกรัฐสภาจะลงคะแนนเสียงไม่รับข้อตกลงดังกล่าว ในกรณีนี้จะต้องมีการลงคะแนนรอบที่สอง ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ในช่วงนี้นักลงทุนก็จะยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเงินปอนด์
ในระหว่างนี้ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างแบ่งออกเป็นสองฝ่ายเท่าๆ กัน ครึ่งแรกคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นของราคา และอีกครึ่งหนึ่งโหวตให้กับแนวโน้มขาลง โดยมีระดับแนวรับที่ 1.2720 1.2695 และ 1.2660 สำหรับระดับแนวต้านอยู่ที่ 1.2885 1.2925 และ 1.3025 - USD/JPY สกุลเงินเยนญี่ปุ่นมักจะเป็นไปในทิศทางโต้กับเทรนด์ฝั่งยุโรป เมื่อราคายูโรและปอน์อ่อนค่าลงเทียบกับดอลลาร์ ค่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้น มุมมองนี้ทำให้นักวิเคราะห์จำนวน 55% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยสัญญาณ 90% จากออสซิลเลเตอร์ และ 70% จากดัชนีเทรนด์ โหวตให้กับแนวโน้มขาลงของราคาคู่นี้ในตอนแรกไปที่ระดับ 112.60 และตกลงมาอีก 30 จุด ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ว่าราคาจะสามารถทดสอบระดับ 112.00 ได้สำเร็จ
อีกสถานการณ์ทางเลือกหนึ่งซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 45% พร้อมการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 และออสซิลเลเตอร์จำนวน 10% ให้สัญญาณว่าราคาถูกขายมากเกินไป โดยมีเป้าหมายของตลาดกระทิงอยู่ในโซน 113.15-113.40 และ 114.20-114.55
- คริปโตเคอเรนซี มีแนวโน้มเป็นไปได้สูงว่าทิศทางลบของตลาดจะยังคงดำเนินต่อไป ราคาบิทคอยน์จะพยายามตัดทะลุระดับ $4,000 โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ 1,000 จุดต่ำลงมา อีกหนึ่งประเด็นอ่อนไหวพบในสัญญาณสมาร์ทของอีธีเรียม และคาดว่า ETH/USD อาจถอยลงมาที่ระดับจิตวิทยาที่สำคัญที่สุดที่ $100 ในส่วนเป้าหมายของราคา Litecoin (LTC/USD) อยู่ที่ระดับต่ำกว่า $30 และสำหรับ Ripple (XRP/USD) อยู่ที่ต่ำกว่า $0.40
สำหรับข่าวดีของตลาดกระทิงคริปโต มีสัญญาณการเบนออกระหว่างราคาบิทคอยน์และผลการอ่านสัญญาณออสซิลเลเตอร์หลายตัวซึ่งบ่งชี้ว่าราคาน่าจะมีการปรับตัวในทิศทางขาขึ้น อย่างไรก็ตาม ตามความเห็นของผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่มองว่าการปรับตัวดังกล่าวจะเป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
กลับ กลับ