บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 24 - 28 ธันวาคม 2019

อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • EUR/USD แม้ว่าก่อนที่ธนาคารเฟ็ดสหรัฐฯ จะปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 70% มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 70% ซึ่งได้รับสนับสนุนโดยดัชนี 100% ได้คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ ไม่มีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ค่าเงินยูโรกลับแข็งค่าขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ และขยับถึงราคาสูงสุดในรอบแปดสัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดีทีผ่านมาที่ระดับ 1.1485
    เมื่อถึงเวลาการประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 2.25% เป็น 2.5% ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นขึ้นมาประมาณ 85 จุด แต่ชัยชนะดังกล่าวก็เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว โดยที่งานแถลงข่าว นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารเฟ็ดกล่าวว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นสามครั้งในปี 2019 และในทางที่ดีอาจจะมีการปรับขึ้นแค่สองครั้ง ตามความเห็นของรัฐมนตรีการคลังของสหรัฐฯ นายสตีเฟน มนูชิน ระบุว่าหากระดับเงินเฟ้อมีค่าต่ำ อาจจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้นในปีหน้านี้ แต่ไม่มีใครคาดว่าจะมีการตกลงกันได้ระหว่างทีมประธานาธิบดีทรัมป์ และธนาคารเฟ็ด หรือแม้กระทั่งภายในธนาคารเฟ็ดด้วยกันเอง ในปี 2019 มีสมาชิก FOMC เพียงสองคนที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ 2.5% หกคนที่มองไว้ที่ 2.75% สี่คนที่ 3.25% สามคนที่ 3.30% และสองคนในคณะกรรมาธิการตลาดเสรีกลางที่อยากเห็นอัตราดอกเบี้ยปรับตัวไปที่ 3.6%!
    สำหรับผลลัพธ์ของสัปดาห์ หลังจากที่มีการประกาศดัชนีสถิติชุดใหญ่จากฝั่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาคู่นี้ก็ได้กลับมาอยู่ที่โซนตรงกลางของช่องด้านข้างในรอบแปดเดือนและหยุดอยู่ที่ 1.1370
  • GBP/USD ตามที่คาดการณ์ไว้ ไม่มีเหตุการณ์น่าประหลาดใจใดๆ มาจากการประกาศผลดัชนีทางเศรษฐกิจของวันพุธที่ผ่านและการประกาศผลการตัดสินใจในอัตราดอกเบี้ยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เมื่อวันอังคารที่ 18 ธันวาคม ราคาคู่นี้ได้เคลื่อนที่ไปด้านข้างที่ช่อง 1.2605 - 1.2705 ซึ่งราคาอยู่ในช่วงดังกล่าวจนถึงท้ายสัปดาห์และปิดตลาดที่ 1.2630
  • USD/JPY ในสัปดาห์ที่แล้ว ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่เฉพาะกับค่าเงินยูโรเท่านั้น ดัชนี DYX ดอลลาร์สของสหรัฐฯ ซึ่งคอยติดตามอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินดอลลาร์เทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ ชี้ว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ได้อ่อนค่าลงมาอยู่จุดต่ำสุดในรอบแปดสัปดาห์ที่ 95.73 โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนลงต่อเงินเยนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก เงินเยนแข็งค่าฟื้นขึ้นมากว่า 260 จุดเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในวันพฤหัสบดี ผู้เชี่ยวชายกล่าวว่าเหตุผลหลักของการก้าวกระโดดของราคาคือการเทขายหุ้นในตลาดหุ้นและการต่อสู้ระหว่างนักลงทุนในการแย่งถือเงินเยนเป็นสกุลเงินลี้ภัยท่ามกลางความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางการเทรดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
  • คริปโตเคอเรนซี ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับคริปโตเคอเรนซีสกุลหลักและอัลท์คอยน์สกุลหลักอื่นๆ แนวโน้มเติบโตสูงสุดของบิทคอยน์ (BTC/USD) อยู่ที่ 33% ในส่วนอีธีเรียม (ETH/USD) อยู่ที่ 46% ไลท์คอยน์ (LTC/USD) ที่ 45% ริพเพิล (XRP/USD) 41% ในส่วนการเติบโตที่น่าประทับใจที่สุดอยู่ที่ 176% เป็นของ Bitcoin Cash (BCH/USD) โดยราคาขยับถึง $220 ต่อเหรียญที่ระดับสูงสุด มูลค่ารวมในตลาดคริปโตเติบโตจาก $103 พันล้านดอลลาร์เป็น $134 พันล้าน ซึ่งคิดเป็น 30%
    เหตุผลล้วนมาจากเหตุการณ์ระดับโลก เช่น นักลงทุนมีความสนใจลดลงในการถือสินทรัพย์ดั้งเดิมในตลาดโลกและเหตุการณ์ส่วนตัว เช่น ข่าวการปิดตำแหน่งขายซึ่งเปิดไว้ตั้งแต่ในปีที่แล้วโดยนักเทรดคริปโตชื่อดังในนาม Mark Doe และยังมีเหตุผลเบื้องหลังอีกมากมาย แต่คำถามหลักที่กำลังสร้างความกังวลให้กับชุมชนคริปโตโดยรวม คือ การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาในรอบสัปดาห์นี้จะเป็นเพียงแค่การปรับตัวของราคาชั่วคราวหรือไม่ หรือที่แย่ไปกว่านั้นอาจจะเป็นอีกกับดักหนึ่งของตลาดหมีหรือไม่?
    ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรนั้น ในช่วงท้ายสัปดาห์ ฝั่งผู้ซื้อบิทคอยน์ระบุระดับแนวต้านหลักอยู่ที่ $4,300 ทำให้ราคาตกลงไปที่ $4,000 และสินทรัพย์ดิจิทัลสกุลอื่นๆ ก็เป็นไปตามราคาบิทคอยน์ด้วยเช่นกัน  

 

สำหรับการทำนาย ควรคำนึงว่าข้อผิดพลาดมักไม่ได้อยู่ที่การกำหนดเป้าหมาย แต่เป็นการกำหนดช่วงเวลาที่จะถึงเป้าหมายดังกล่าว โดยเฉพาะในไม่อีกกี่วันข้างหน้านี้ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการเทรดเต็มสัปดาห์ในปีนี้ ในสัปดาห์หน้า การเทรดจะเริ่มต้นขึ้นเฉพาะในวันพุธที่ 26 ธันวาคม และโลกจะทำการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ในคืนวันจันทร์ที่ 31 ธันวาคม ถึงวันอังคารที่ 1 มกราคม นี่คือเหตุผลว่าทำไมในครั้งนี้เราจึงตัดสินใจให้คำทำนายความเห็นของผู้เชี่ยวชาญไม่แต่เฉพาะในสัปดาห์หน้านี้เท่านั้น แต่รวมถึงของเดือนหน้าด้วยเช่นกัน ซึ่งเราหวังว่าจะช่วยให้นักเทรดสามารถกำหนดทิศทางของเทรนด์และระดับต่างๆ ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

  • EUR/USD คำทำนายประจำสัปดาห์มีดังนี้: 40% ของผู้เชี่ยวชาญโหวตให้กับแนวโน้มขาลงของราคา อีก 30% โหวตขาขึ้น และอีก 30% มีท่าทีเป็นกลาง ในส่วนคำทำนายสำหรับเดือนมกราคม: 60% โหวตให้กับแนวโน้มขาลง 20% ให้กับแนวโน้มด้านข้าง และมีเพียง 20% ที่มองว่าค่าเงินยูโรจะแข็งค่าขึ้น โดยมีเป้าหมายหลักของตลาดหมีอยู่ที่ 1.1300, 1.1265 จากนั้นจะเป็นค่าต่ำสุดของเดือนธันวาคมที่ 1.1215 ในกรณีที่ราคาขยับทะลุระดับแนวรับนี้ ราคาอาจตกลงไปที่ระดับ 1.1120 และอาจต่ำกว่านั้นโดยลงไปที่ 1.0910 ในส่วนเป้าหมายหลักของตลาดกระทิงอยู่ที่โซน 1.1525-1.1625 ภายหลังจากขยับถึงแล้ว ราคาจะมุ่งขึ้นไปที่ระดับ 1.1730 และ 1.1815
  • GBP/USD ในที่นี้ ผู้เชี่ยวชาญก็ได้คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นในระหว่างเดือนและจะทำให้อัตราแลกเปลี่ยนคู่นี้ปรับตัวลดลง โดยมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 60% โหวตให้กับสถานการณ์ดังกล่าว โดยมีแนวรับที่ 1.2605, 1.2525, 1.2475 และ 1.2345 และค่าแนวต้านที่ 1.2725, 1.2840 1.2925 และ 1.3050

  • USD/JPY ตามความเห็นของนักวิเคราะห์จำนวน 55% (คำทำนายรายสัปดาห์) และ 65% (คำทำนายรายเดือน) มองว่า ราคาคู่นี้ได้ขยับถึงกรอบด้านล่างในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และในขณะนี้กำลังรอคอยการรีบาวด์ขึ้นมาอีกครั้ง เป้าหมายในที่นี้อยู่ที่ 112.30, 113.15, 113.70 และ 114.20 จำนวนผู้ที่โหวตให้กับเทรนด์ด้านข้างในที่นี้ค่อนข้างมีจำนวนน้อยอยู่ที่ประมาณ 10% ในส่วนผู้เชี่ยวชาญที่เหลือมักเข้าข้างตลาดหมีและเชื่อว่าราคากำลังรอคอยให้ราคาตกลงไปอีก โดยมีระดับแนวรับที่ 110.80, 109.85, 109.35 และ 108.65
  • คริปโตเคอเรนซี แม้ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตในสัปดาห์ที่แล้ว ภาพรวมทั่วไปของตลาดคริปโตก็ยังคงค่อนข้างมืดมน มีนักวิเคราะห์และผู้ร่วมตลาดมากกว่า 70% เชื่อว่าแนวโน้มขาขึ้น ณ ปัจจุบันเป็นเพียงการเก็งกำไรเท่านั้น และเทรนด์ขาลงก็จะมาต่อยอดต่อไป นอกจากนี้ยังมองว่าราคาบิทคอยน์จะตกลงมาที่โซนสถิติหลักของเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2018 ที่ $2,500-2,700 นอกจากนี้ ทิศทางขาลงดังกล่าวอาจใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือน โดยมีแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ในโซน $2,940-2,050
    เป้าหมายของตลาดกระทิงของนักวิเคราะห์อีก 30% ที่เหลือยังคงดูค่อนข้างถ่อมตัว โดยพวกเขาคาดการณ์ราคา BTC//USD จะขยับขึ้นไปเพียงแค่ $4,800-5,200 เท่านั้น

 

โรมัน บุทโก, NordFX

 

หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา