ในตอนต้นจะกล่าวเล็กน้อยเกี่ยวเก็บเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา วันทำการแรกมีข่าวน่าประหลาดใจที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็อาจเป็นข่าวดีสำหรับคนบางกลุ่ม
- เมื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ยังไม่สิ้นสุดลงดีนักในเช้าของวันที่ 2 มกราคม ราคาคู่ EUR/USD ดิ่งต่ำลงเสียมูลค่า 200 จุดในหนึ่งวัน แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็กลับมาสู่ภาวะปกติ และราคาได้กลับมาสู่จุดกลับตัวที่ 1.1400 ซึ่งราคาได้ขยับอยู่ในระดับดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2018 โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา สถิติเชิงบวกจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์พยายามที่จะฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และราคาปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 1.1394
- ราคาดิ่งตัวหนักยิ่งกว่าในช่วงข้ามปี 2018 เข้าปี 2019 เป็นของคู่ GBP/USD ซึ่งราคาเสียตำแหน่งกว่า 400 จุดเมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการถือเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้น จากนั้นก็เป็นไปตามราคาของคู่เงินยูโรเช่นเดียวกัน ความตื่นเต้นค่อยๆ ทุเลาลงและราคากลับเข้าสู่เส้นแนวรับ/แนวต้านหลักเดิมของเดือนสองเดือนที่ผ่านมาในช่วง 1.2720
- คำทำนายสำหรับคู่ USD/JPY ชี้ให้เห็นว่าค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นในฐานะสกุลเงินลี้ภัย แต่ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงของวันที่ 2 มกราคม ราคาสามาถฟื้นตัวได้ถึง 400 จุดเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ กล่าวคือ มูลค่าที่เคยเสียไปทั้งหมดตลอดปี 2018 แทบจะคาดการณ์ไม่ได้ สาเหตุเบื้องหลังเหตุการณ์นี้คือการขาดสภาพคล่องในญี่ปุ่นในช่วงเทศกาลที่สิ้นสุดลง แต่ค่าเงินดอลลาร์ไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่ และราคาจึงปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 108.50 ช
- คริปโตเคอเรนซี ถานการณ์ราคาคู่สกุลเงินหลักอย่างบิทคอยน์แสดงถึงสภาวะคงที่อย่างน่าประทับใจในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยรักษาอัตราการเคลื่อนที่ในช่องแคบๆ ด้านข้างที่ $3,775-4,100 และกลับมาสู่ระดับที่เคยแวะเวียนมาตลอดหกสัปดาห์ที่ผ่านมาในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ $3,955 สำหรับคู่คริปโตอื่นๆ ก็เดินรอยตามคู่คริปโตหลัก คู่ที่มีความนิ่งสงบมากที่สุดเป็นของ Litecoin (LTC/USD) ในขณะที่ Ethereum และ Ripple มีความเคลื่อนไหวมากกว่า โดยคู่ ETH/USD เติบโตขึ้นมา 12% ขยับขึ้นมาเหนือระดับ $160 และคู่ XRP/USD ในทางกลับกันเสียมูลค่า 7% แม้ว่าจะไม่สามารถตัดทะลุระดับแนวรับ $0.3560 ได้สำเร็จ
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD ทั้งดัชนีเทรนด์และออสซิลเลเตอร์ในกรอบ H4 และ D1 ก็มีท่าทีเป็นกลาง ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญแบ่งออกเป็นสามกลุ่มดังนี้: 20% โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้นของราคา อีก 40% โหวตให้กับแนวโน้มด้านข้าง และอีก 40% โหวตว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งตัวขึ้นและราคาคู่นี้จะปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ควรคำนึงว่าเมื่อขยับการพิจารณาจากการวิเคราะห์รายสัปดาห์เป็นรายเดือน จำนวนผู้ที่สนับสนุนการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเป็น 65% โดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ก็บ่งชี้ให้เห็นด้วยว่าราคาอาจจะปรับตัวลดลงไปสู่ราคาต่ำสุดของเดือนธันวาคมที่โซน 1.1215 และมีแนวรับหลักที่ใกล้ที่สุดที่ 1.1305
สำหรับสถานการณ์ “กระทิง” ผู้ที่เห็นด้วยมองว่าค่าเงินดอลลาร์จะยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯ ต่อไป โดยโซนแนวต้านหลักที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ที่ 1.1485-1.1500 ในกรณีที่ราคาตัดทะลุระดับดังกล่าว เป้าหมายถัดไปของแนวโน้มกระทิงจะเป็นการแข็งตัวของราคาเข้าสู่โซน 1.1550-1.1625 ในบรรดาเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สามารถส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนของคู่เงินดอลลาร์ เราคควรให้ความสนใจกับรายงานของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) ซึ่งจะประกาศออกมาในช่วงเย็นวันพุธที่ 9 มกราคม และการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันพฤหัสบดีที่ 10 มกราคม รวมถึงข้อมูลระดับเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศออกมาในช่วงท้ายสัปดาห์ในวันศุกร์ที่ 11 มกราคมนี้ - GBP/USD สำหรับคู่นี้ ความสนใจหลักจะมุ่งไปที่ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางอังกฤษ นายมาร์ค เคียร์นีย์ ในวันที่ 9 มกราคม รวมถึงข้อมูลตัวเลข GDP ของสหราชอาณาจักรที่จะประกาศออกมาในวันที่ 11 มกราคม อย่างไรก็ตาม ไม่น่าจะมีเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจใดๆ ออกมาจากทั้งสองเหตุการณ์ดังกล่าว และความไม่แน่นอนที่เกี่ยวเนื่องกับการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรจะเป็นตัวตัดสินอัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินปอนด์อังกฤษ นี่คือเหตุผลว่าทำไมผู้เชี่ยวชาญจำนวน 65% จึงทำนายว่าค่าเงินปอนด์จะถอยตกต่ำลงไปอีก โดยพวกเขามองว่าเมื่อพิจารณาการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ราคาน่าจะลองทดสอบแนวรับที่ 1.2615 อีกครั้งในตอนต้น และหากสำเร็จ ราคาน่าจะขยับไปที่โซน 1.2475-1.2525 โดยราคาไม่น่าจะขยับถึงราคาต่ำสุดในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคมในโซน 1.2400 ในสัปดาห์หน้านี้
สำหรับนักวิเคราะห์ 20% มีความเห็นว่าราคา GBP/USD น่าจะเป็นแนวโน้มด้านข้าง และมีเพียง 15% เท่านั้นที่เห็นด้วยกับแนวโน้มกระทิง โดยคาดว่าราคาจะขยับอยู่ในช่วง 1.2715-1.2835 โดยมีระดับแนวต้านถัดไปที่ 1.2925
ในขณะที่เขียนบทวิเคราะห์นี้ มีดัชนีประมาณ 90% ให้สัญญาณแนวโน้มตลาดกระทิง อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงว่าสัญญาณดังกล่าวเป็นเพียงผลที่ตามมาจากการเคลื่อนที่ขาขึ้นของราคาในช่วงวันที่ 3-5 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ ออสซิลเลเตอร์จำนวน 10% ก็ได้ให้สัญญาณแล้วว่าราคาอยู่ในภาวะถูกซื้อมากเกินไป ชี้ให้เห็นว่าราคาน่าจะกลับทิศทางลงสู่ทิศใต้
- USD/JPY มีดัชนีประมาณครึ่งหนึ่งที่ให้สัญญาณเป็นสีแดงและอีกครึ่งหนึ่งส่งสัญญาณสี่เขียว สำหรับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% ทำนายแนวโน้มขาลงของราคาไปที่ระดับ 107.00 และจะลงต่อไปอีก 100 จุด โดย ณ ขณะนี้ มีผู้เชี่ยวชาญเพียง 30% ที่โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้นของราคา แต่ในระยะกลาง จำนวนผู้ให้เสียงสนับสนุนการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึงเท่าตัว เป้าหมายหลักสำหรับตลาดกระทิงคือการกลับมาสู่โซน 112.25-113.80 โดยระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 109.45, 110.25 และ 111.15
- คริปโตเคอเรนซี พฤติกรรมของราคา BTC/USD ไม่ได้ให้สัญญาณในทางที่ดีหรือทางที่ร้ายใดๆ ดังนั้น ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญจึงแบ่งออกเป็นสามกลุ่มเกือบเท่าๆ กัน: 30% โหวตให้กับแนวโน้มขาขึ้นของบิทคอยน์ อีก 30% โหวตให้กับขาลง และอีก 40% โหวตว่าเทรนด์ด้านข้างจะดำเนินต่อไป ในขณะเดียวกัน มูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตขณะนี้อยู่ที่ระดับเดียวกับช่วงปลายเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมาที่ประมาณ $130 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งก็ไม่ก่อให้เกิดข้อสรุปใดๆ แม้ว่าผู้เชี่ยวชาญบางส่วนพิจารณาธรรมชาติวัฏจักรแนวโน้มขาขึ้นและขาลงของราคา มีข้อโต้แย้งว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 ตลาดจะตกเป็นของฝั่งผู้ซื้อและคาดว่าราคาน่าจะขยับขึ้นไปที่ระดับ $4,800-5,200 โดยมีสถานการณ์ทางเลือกอีกทางหนึ่งก็คือ ราคาสิ้นสุดการปรับตัวและราคา BTC/USD คาดว่าจะตกลงมาที่โซนหลักที่เคยบันทึกไว้ของเดือนกรกฎาคม-สิงหาคมปี 2018 ที่ $2,500-2,700 นอกจากนี้ แนวโน้มขาลงดังกล่าวอาจใช้เวลาหนึ่งถึงสองเดือน โดยมีแนวรับที่ใกล้ที่สุดในโซน $2,940-3,050
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
กลับ กลับ