อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD โดยทั่วไปแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์น่าประหลาดใจใดๆ ไม่มีใครคาดการณ์การปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นโดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ แต่บรรดานักลงทุนต่างกังวลใจเกี่ยวกับความเห็นเรื่องแผนสำหรับปี 2019 และลางสังหรณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับความเห็นนโยบายแบบ “นกพิราบ” ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ แทนที่จะให้สัญญาณแบบเฉพาะเจาะจง ธนาคารกลางสหรัฐฯ กลับมีท่าทีที่บ่งบอกว่าการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอาจยังคงต้องพิจารณาปัจจัยทางเศรษฐกิจโลกที่จะต้องมีความสะดุลเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ ท่าทีที่ไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ถูกเทขายอย่างฉับพลัน ทำให้ราคาคู่นี้ไต่ขึ้นไปที่กรอบด้านบนของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1300-1.1500 อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ก็ได้นิ่งสงบลงและราคาก็กลับลงสู่ทิศใต้
อีกเหตุการณ์หนึ่งที่มีการจับตามองก็คือการประกาศข้อมูลสถิติตลาดแรงงานสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผลสถิติปรากฏออกมาว่ามีตัวเลขที่เป็นบวกอย่างยิ่ง โดยดัชนี NFP เติบโตขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับตัวเลขของเดือนก่อนหน้า (จาก 222K เป็น 304K) และดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจก็มีตัวเลขสูงขึ้นจาก 54.3 เป็น 56.3 แต่ก็ไม่ได้เป็นที่น่าประหลาดใจใดๆ เช่นกัน เนื่องจากข่าวรั่วไหลของนายแลร์รี่ คัดโลว์ ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งได้ “ปล่อย” ข้อมูลนี้ออกมานานตั้งแต่ก่อนการประกาศดัชนีอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ การตอบสนองของตลาดจึงจำกัดอยู่ในช่วงความผันผวนเพียงเล็กน้อยที่ 40 จุด หลังจากนั้น ราคาก็ปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ระดับ 1.1455 - GBP/USD การประชุมรอบถัดไปของรัฐสภาสหราชอาณาจักรในประเด็น Brexit ยังไม่มีความแน่นอนเพิ่มเติมใดๆ ว่าด้วยกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป ส่งผลให้ค่าเงินปอนด์เสียมูลค่าลง 160 จุดในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์ และจากนั้นก็ขยับเข้าสู่เทรนด์ด้านข้างโดยราคาผันผวนอยู่ที่ช่วง 1.3050-1.3150 และปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ระดับ 1.3075
- USD/JPY เช่นเดียวกับคู่ดอลลาร์คู่อื่นๆ คู่ USD/JPY ได้ตอบสนองต่อความเห็นของธนาคารเฟ็ดโดยอัตราแลกเปลี่ยนตกลงมาที่ 108.50 อย่างไรก็ตาม ด้วยตัวเลขที่ดีจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ ช่วยให้ค่าเงินดอลลาร์ฟื้นคืนราคาขึ้นมา และราคาก็กลับมายังจุดเดียวกับจุดเริ่มต้นในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ 109.50
- คริปโตเคอเรนซี ในคำทำนายครั้งที่แล้วระบุไว้ว่าเหรียญดิจิทัลสกุลหลักกำลังอยู่ในช่วงเทรนด์ด้านข้าง โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหมีเป็นระยะๆ มีผู้เชี่ยวชาญ 70% สนับสนุนสถานการณ์นี้ โดยมองว่าราคาบิทคอยน์จะจำนนต่อแรงกดดันดังกล่าวและจะค่อยๆ ลดตัวลงไปยังระดับราคาต่ำสุดของปี 2018 ในสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ได้ยืนยันคำคาดการณ์ดังกล่าวว่าเป็นจริง เมื่อวันอังคาร 29 มกราคม ราคาได้ขยับมาหยุดที่ราคาต่ำสุดที่ $3,425 หลังจากนั้นตามมาด้วยการฟื้นตัวของราคา โดยบิทคอยน์ต้อนรับเดือนกุมภาพันธ์โดยเข้าสู่โซน $3,500 ส่วนมูลค่ารวมในตลาดเงินคริปโตลดลงไปทั้งหมด 5.5% ภายในหนึ่งสัปดาห์และตกลงมาที่ $113.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD ดูเหมือนว่ามีความหวังปรากฏขึ้นกับข้อตกลงการค้ากับจีนที่ส่งผลดีต่อค่าเงินดอลลาร์ เมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา การเจรจาสิ้นสุดลงอีกรอบหนึ่งในกรุงวอชิงตัน และก็เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์กล่าวไว้ว่ากระบวนการเจรจาต้องอาศัยความพยายามอย่างมากจากทั้งสองฝ่าย ฝ่ายอเมริกันแสดงความประสงค์อยากให้ข้อตกลงมีความสำเร็จ เนื่องจากประธานาธิบดีทรัมป์ขณะนี้กำลังจำเป็นต้องอาศัยข่าวดีเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายอเมริกันกล่าวหาบริษัท Huawei Technologie Co. ว่าได้มีการล้วงลับข้อมูลเชิงอุตสาหกรรมยิ่งส่งผลกระทบต่อท่าทีที่เป็นมิตรของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ การเจรจารอบถัดไปจะมีขึ้นในกรุงปักกิ่งในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
อุปสรรคต่อความสำเร็จของการเจรจานี้เป็นไปตามที่ระบุข้างต้นซึ่งก็คือความลังเลใจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะตัดสินใจปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และหากในระยะกลาง 60% ของนักวิเคราะห์ยังคงรอคอยให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในสัปดาห์นี้ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% เข้าข้างกับฝั่งยูโร ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญประกอบกับสัญญาณ 80% จากออสซิลเลเตอร์และดัชนีเทรนด์ในกรอบ D1 คู่เงิน EUR/USD จะพยายามอีกครั้งที่จะตัดทะลุเส้นด้านบนของช่องด้านข้างระยะกลางที่ 1.1300-1.1500 และจะตั้งหลักที่ช่วง 1.1500-1.1570 โดยมีเป้าหมายถัดไปอยู่ที่ระดับ 1.1625
สถานการณ์ทางเลือกซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 30% การวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และออสซิลเลเตอร์จำนวน 20% ให้สัญญาณว่าราคาคู่นี้ถูกซื้อมากเกินไป ในกรณีนี้ ราคาคู่นี้จะล้มเหลวในการตัดทะลุระดับหลักที่ 1.1500 และขยับอยู่ในช่วงด้านข้างที่ 1.1400-1.1500 อยู่สักระยะ และหากมีข่าวดีใดๆ ที่จะส่งผลต่อค่าเงินดอลลาร์ ราคาคู่นี้จะพยายามถอยลงมาสู่แนวรับที่ระดับ 1.1300 - GBP/USD ในวันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ เราจะได้ทราบผลการตัดสินใจของธนาคารกลางอังกฤษเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ระดับ 0.75% นักลงทุนกลับมีความกังวลมากกว่าเกี่ยวกับสถานการณ์ Brexit ซึ่งยังคงไม่มีความชัดเจนใดๆ นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ของการแยกตัวออกจากอียูโดยปราศจากข้อตกลงดูเหมือนจะมีโอกาสสูงขึ้นอีกครั้ง นี่คือเหตุผลว่าทำไมนักวิเคราะห์จำนวน 65% ทำนายว่าในตอนแรก ราคาน่าจะตกลงมาที่ระดับ 1.2930 ก่อนที่ถอยลงมาอีก 100 จุด
สำหรับการวิเคราะห์โดยดัชนีจำนวน 40% ให้สัญญาณสีแดงในกรอบ H4 อีก 40% เป็นสีเขียว และอีก 20% มีสีเทากลาง อย่างไรก็ตาม ในกรอบ D1 สัญญาณสีเขียวจะครอบคลุมที่ 60% ต่อ 30% ที่เป็นสีแดง และเทาอีก 10% โดยมีระดับแนวต้านที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.3215, 13250 และ 1.3300 - USD/JPY อาจมีเหตุการณ์น่าประหลาดใจเกิดขึ้นกับคู่อัตราแลกเปลี่ยนนี้ในอนาคต และสาเหตุก็คืองานเทศกาลตรุษจีน โดยตามธรรมเนียมแล้ว ในช่วงนี้ของปีไม่เพียงแต่มีการสรุปผลลัพธ์ทางการเงิน แต่ยังมีท่าทีออกมาจากฝั่งธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งในช่วงหลายปีติดต่อกันมานี้มักจะมีธุรกรรมซื้อหรือขายจำนวนมหาศาลในช่วงเวลานี้ของปี การเข้ามาแทรกแซงดังกล่าวอาจส่งผลให้ราคากระโดดขึ้นมาหลายร้อยจุด และในขณะนี้ นักวิเคราะห์จำนวน 70% ส่วนใหญ่ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 คาดการณ์ว่าราคาจะตกลงมาที่ 108.00-108.55 ในตอนแรก และจากนั้นจะกลับสู่ระดับ 110.0 ในขณะเดียวกันมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 60% เชื่อว่าราคาจะไม่หยุดแค่นั้นและอาจขยับถึงระดับแนวต้านที่ 111.70 ภายในหนึ่งเดือน
- คริปโตเคอเรนซี ผู้เชี่ยวชาญและนักลงทุนขณะนี้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกเชื่อว่าภาวะนิ่งสงบช่วงนี้เป็นภาวะนิ่งสงบก่อนเกิดพายุ กลุ่มที่สองมองว่าภาวะที่นิ่งเงียบเช่นนี้จะตามมาด้วยความเงียบสงัดยิ่งกว่าเดิม นายแอนดี้ บรอมเบิร์ก ประธานตลาดคริปโต CoinList ได้เข้าข้างกลุ่มที่สองมากกว่า โดยระบุในบทสัมภาษณ์ของ Yahoo Finance ว่าสถานการณ์ในตลาดจะนิ่งสงบเนื่องจากสินทรัพย์ที่จำเป็นทั้งหมดได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว และบริษัทต่างๆ จะมุ่งความสำคัญไม่ใช่ไปที่การเก็งกำไรแต่เป็นนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นหลัก
สถานการณ์นี้ก็ได้รับการสนับสนุนจากรายงานของ Circle Research เช่นกันซึ่งระบุว่า แม้ว่าการลงทุนโดยตรงในสกุลเงินดิจิทัลจะลดลงมา 8.5 เท่าภายในหนึ่งปี ในทางกลับกัน การลงทุนในบริษัทบล็อกเชนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าและมีมูลค่าเกินกว่า $5 พันล้านดอลลาร์
สำหรับคำทำนายของอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 70% ยังคงเชื่อว่าบิทคอยน์จะลดลงมาที่ราคาต่ำสุดของปี 2018 ในโซน $3,200-3,250 และจากนั้นจะเร่งตัวไปยังระดับแนวรับที่ $2,400 ในขณะที่นักวิเคราะห์ 30% ที่เหลือยังไม่ตัดความเป็นไปได้ที่ราคา BTC/USD จะเติบโตขึ้นในระยะสั้นไปที่ $3,700-3,850 และอาจจะขยับสูงขึ้นไปอีกที่ระดับ 4,215
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
กลับ กลับ
