บทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์และคริปโตเคอเรนซี ประจำวันที่ 13 - 17 พฤษภาคม 2019

อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา:

  • EUR/USD เหตุการณ์สำคัญทางเศรษฐกิจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาคือความล้มเหลวของการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจปรับเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจีนจาก 10% เป็น 25% ต่อมา กระทรวงพาณิชย์จีนก็ได้ประกาศว่าท่าทีดังกล่าวเป็นการบังคับให้จีนต้องใช้มาตรการตอบโต้ อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับตอบสนองต่อคำประกาศเหล่านี้อย่างเชื่องช้า มีค่าความผันผวนในช่วงสัปดาห์ไม่ถึง 85 จุด และราคาไม่สามารถตัดทะลุระดับแนวต้านที่ 1.1250 ได้สำเร็จ
  • GBP/USD การเคลื่อนที่ของคู่นี้ยังคงขึ้นอยู่กับปัจจัยเดียวซึ่งก็คือ เบร็กซิต ทั้งนี้ ความหวังของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ นางเทเรซา เมย์ ว่าจะได้ข้อตกลงกับนายเจเรอมี คอร์บิน ผู้นำฝ่ายค้าน ว่าด้วยเงื่อนไขในการแยกตัวออกจากอียู เริ่มจางหายราวกับแดดยามเช้า ด้วยเหตุนี้ค่าเงินปอนด์จึงทรุดต่ำลงมากกว่า 200 จุด ทำให้ราคาแตะถึงกรอบด้านล่างที่ 1.2965 หลังจากนั้นราคาปรับตัวและปิดตลาดรอบสัปดาห์ที่ 1.3000
  • USD/JPY เมื่อพิจารณากราฟอัตราแลกเปลี่ยนคู่หลักทั้งหลายจะเห็นว่าเหตุการณ์ในตลาดส่งผลกระทบกับคู่เงินเยนมากที่สุด ปัญหาการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ และแนวโน้มการลงทุนที่ลดลงในสินทรัพย์ความเสี่ยงสูงส่งผลให้ค่าเงินเยนฟื้นตัวขึ้นมาประมาณ 150 จุดเทียบกับดอลลาร์ และกลับมาสู่ราคาเดิมของช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาที่โซน 109.70-109.95
  • คริปโตเคอเรนซี ไม่ว่าบิทคอยน์จะกลายเป็นสินทรัพย์สื่อกลางของโลกที่ยั่งยืนได้หรือไม่นั้น ยังคงเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงก็คือบิทคอยน์สามรถรักษาตำแหน่งสินทรัพย์ในการลงทุนที่ติดอันดับต้นๆ ได้อีกครั้ง งานวิจัยล่าสุดโดย Binance ชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 มูลค่าของเงินคริปโตเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ในขณะที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 33% หุ้นบริษัทไอทีเติบโตกว่า 18% และราคาทองคำลดต่ำลง 1% อัตราการเติบโตของ BTC ไม่อาจเป็นที่เพิกเฉยต่อนักลงทุนอีกต่อไป ทั้งนี้ ตามข้อมูลของบริษัทที่ปรึกษา deVere Group พบว่ามีคนที่มีฐานะร่ำรวยมากที่สุดถึง 68% ซึ่งมีทรัพย์สินรวมมูลค่ามากกว่า $500 ล้านเหรียญ แสดงความประสงค์ว่าจะลงทุนในบิทคอยน์ใน 2-3 ปีข้างหน้า (นักธุรกิจ 700 คน จากสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร สวิตเซอร์แลนด์ สเปน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เข้าร่วมในแบบสำรวจนี้)
    ในช่วงระหว่างนี้ มูลค่ารวมในตลาดเริ่มเข้าใกล้ระดับ $190 พันล้านเหรียญ ซึ่งเป็นมูลค่ารวมที่สูงที่สุดของปีปัจจุบัน และบิทคอยน์เร่งเติบโตสูงขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ ทั้งนี้ บทวิเคราะห์ครั้งก่อนหน้าระบุว่ามีผู้เชี่ยวชาญ 70% ที่ทำนายว่าคู่ BTC/USD อาจขยับขึ้นเหนือ $6,000 ในช่วงเดือนพฤษภาคม แต่ราคาขยับถึงระดับดังกล่าวเร็วมากตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยขยับถึง $6,400 ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่ผ่านมา
    สำหรับอัลท์คอยน์สกุลอื่นๆ ต่างมีพฤติกรรมต่างจาก “บิทคอยน์” โดยอัตราเติบโตเป็นศูนย์ เช่น Ethereum (ETH/USD) หรือเป็นเทรนด์ติดลบ เช่น Litecoin (LTC/USD) ที่มูลค่าลดลง 11.0% และ Ripple (XRP/USD) ที่ 9%

 

สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:

  • EUR/USD ตามสถานการณ์ตลาดในขณะนี้ ข้อตกลงของจีนกับสหรัฐฯ เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับฝั่งจีน ซึ่งเศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาล อย่างไรก็ตาม สงครามทางการค้าที่มีความต่อเนื่องอาจส่งผลเสียต่ออเมริกาและนำพาเศรษฐกิจประเทศเข้าสู่สภาวะถดถอยได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ ตามผลสำรวจเดือนพฤษภาคมของ Wall Street Journal พบว่ามีผู้เชี่ยวชาญ 51% ที่เชื่อว่าธนาคารเฟดสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากกว่านโยบายตึงตัว (ซึ่งในเดือนเมษายนมีผู้ตอบแบบสำรวจ 44% ที่โหวตให้กับนโยบายผ่อนคลาย และเพียง 19% ในเดือนมีนาคม) ณ ตอนนี้ มีผู้เชี่ยวชาญ 60% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ต่างชื่นชอบสกุลยูโรมากกว่า โดยเชื่อว่าค่าเงินยูโรจะเติบโตไปที่โซน 1.1280-1.1325 ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ราคาสูงสุดของเดือนมีนาคมที่ 1.1400 และ 1.450
    ในทางกลับกัน ปัญหาปัจจุบันของจีนอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อเศรษฐกิจของยูโรโซนซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด ปัญหานี้ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเข้มแข็งของสกุลเงินยูโร ทั้งนี้ เมื่อเปลี่ยนมาพิจารณาบทวิเคราะห์รายเดือนจะพบว่า 70% ของผู้เชี่ยวชาญโหวตให้กับตลาดหมี โดยเชื่อว่าราคาจะขยับต่อไปในช่องขาลงระยะกลางและจะทดสอบราคาต่ำสุดของเดือนเมษายนอีกครั้งที่ 1.1110 ในส่วนการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และออสซิลเลเตอร์ 15% ในกรอบ H4 และ D1 ให้สัญญาณว่าราคาถูกซื้อมากเกินไปและเข้าข้างกับแนวโน้มตลาดหมีเช่นกัน โดยระบุแนวรับที่ใกล้ที่สุดที่ 1.1175 และ 1.1140
    สำหรับเหตุการณ์สำคัญที่คุณควรให้ความสนใจ ได้แก่ การประกาศข้อมูลการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศในเศรษฐกิจจีน ซึ่งจะประกาศในวันจันทร์ที่ 13 พฤษภาคม รวมถึงสถิติค่า GDP ของเยอรมนีและยูโรโซน และตัวเลขการขายปลีกในสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพุธที่ 15 พฤษภาคมนี้
  • GBP/USD สถิติตลาดแรงงานสหราชอาณาจักรจะมีการประกาศในวันอังคารที่ 14 พฤษภาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าดัชนีดังกล่าวจะมีผลเป็นอย่างไร ปัญหาที่เป็นตัวแปรสำคัญยังคงเป็นเบร็กซิต ทั้งนี้ มีกระแสความรู้สึกว่านายกฯ เมย์ จะไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จและสิ่งนี้ยังคงส่งผลเป็นแรงกดดันต่อค่าเงินปอนด์อังกฤษ
    นักวิเคราะห์จำนวน 65% เชื่อว่าค่าเงินปอนด์จะทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสัญญาณจากดัชนีเทรนด์ส่วนใหญ่และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ H4 และ D1 ต่างเห็นด้วย โดยมีค่าแนวรับที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 1.2985 และมีเป้าหมายอยู่ที่ราคาต่ำสุดของเดือนเมษายนที่โซน 1.2870
    ผู้เชี่ยวชาญ 35% ที่เหลือโหวตว่าราคาจะกลับมาสู่ที่ระดับ 1.3100 โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 1.3200 สำหรับสัญญาณออสซิลเลเตอร์ ณ เวลาที่เขียนบทวิเคราะห์นี้ ยังคงแสดงท่าทีเป็นกลางในกรอบเวลาทั้งสองกรอบ
  • USD/JPY นักวิเคราะห์จำนวน 55% ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยผลวิเคราะห์กราฟและดัชนีจำนวน 85% เชื่อว่าเงินเยนในฐานะสกุลเงินลี้ภัยจะยังคงความแข็งแกร่งและจะดันค่าเงินดอลลาร์ให้ขยับต่ำลงต่อไปที่ระดับแนวรับ 109.00 และจากนั้นจะลงไปอีก 50 จุด โดย ณ ขณะนี้ มีผู้เชี่ยวชาญเพียง 45% และออสซิลเลเตอร์ 15% ที่เห็นด้วยกับแนวโน้มตลาดกระทิง โดยให้สัญญาณว่าราคาถูกขายมากเกินไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเปลี่ยนมาเป็นบทวิเคราะห์ในรอบเดือนจะพบว่ามีนักวิเคราะห์ถึง 80% ที่คาดการณ์ว่าราคาจะกลับมาสู่ในช่วง 111.00-112.00
  • คริปโตเคอเรนซี บิทคอยน์ได้ขยับถึงโซนแนวรับ/แนวต้านหลักที่ตั้งเป้าไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 นักวิเคราะห์จากบริษัท Galaxy สันนิษฐานว่าราคาอาจขยับถึง 400,000 ดอลลาร์ในอนาคต แต่สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อบิทคอยน์จะต้องสูญเสียการกระจายศูนย์กลางโดยสิ้นเชิง และต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของสถาบันการลงทุนรายใหญ่ต่างๆ เท่านั้น ในระหว่างนี้ ผู้เชี่ยวชาญ 60% เชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ราคาจะผันผวนอยู่ในช่วง $6,100-6,840 ที่เคยขยับเมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม ก่อนที่จะเริ่มทรุดตัวลงในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนปีก่อนหน้า
    นักวิเคราะห์ 20% เชื่อว่าในกรณีที่มีข่าวเชิงบวกปรากฏ อัตราการเติบโตที่เป็นบวกของเดือนล่าสุดนี้จะยังคงดำเนินต่อไป และราคาบิทคอยน์จะแตะถึงระดับ $7,400 ได้สำเร็จ สำหรับนักวิเคราะห์อีก 20% ที่เหลือมีทัศนคติที่เป็นลบมากกว่า โดยคาดการณ์ว่าราคาจะกลับมาอยู่ในโซน $5,570-5,850

 

โรมัน บุทโก, NordFX

 

หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา