อันดับแรกเป็นการรีวิวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา:
- EUR/USD การเลือกตั้งสภายุโรปที่จะมาถึง รวมถึงความสับสนที่ยืดเยื้อของสถานการณ์เบร็กซิตยังคงส่งแรงกดดันต่อค่าเงินยูโร แม้แต่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนก็ยังไม่ส่งผลช่วยค่าเงินยูโรแต่อย่างใด ซึ่งทางฝ่ายรัฐบาลจีนมีท่าทีตอบโต้อย่างชัดเจน และตลาดเองก็เดิมพันบนชัยชนะของฝั่งสหรัฐฯ ในขณะที่ความล้มเหลวของจีนจะยิ่งส่งผลร้ายต่อปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยูโรโซนโดยอัตโนมัติ
ในครั้งที่แล้ว บทวิเคราะห์รายเดือนระบุว่ามีผู้เชี่ยวชาญ 70% ให้ความเห็นว่าราคาคู่นี้จะเคลื่อนที่ต่อไปในช่องขาลงระยะกลางและจะทดสอบราคาต่ำสุดของเดือนเมษายนที่ 1.1110 สัปดาห์ที่ผ่านมาช่วยยืนยันให้เห็นว่าบทวิเคราะห์ดังกล่าวถูกต้องแม่นยำ โดยราคาคู่นี้ได้ตกลงไป 80 จุดในช่วงห้าวันและปิดตลาดไม่ไกลจากเป้าหมายที่วางไว้ที่ประมาณ 1.1155 - GBP/USD ไม่มีอะไรใหม่สำหรับคู่นี้และการเคลื่อนที่ของคู่นี้ยังคงขึ้นอยู่กับคำๆ เดียว ซึ่งก็คือ เบร็กซิต โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เราให้ความเห็นว่านายกฯ เมย์จะไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จแต่อย่างใด และขณะนี้บรรดาสื่อต่างพาดหัวเกี่ยวกับแนวโน้มที่เธอจะต้องประกาศลาออกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โอกาสความเป็นไปไม่ได้ (หรือความล้มเหลว) ของรัฐบาลที่จะเจรจากับฝ่ายค้านเป็นตัวฉุดให้ค่าเงินปอนด์ทรุดตัว ราคาคู่นี้จึงตัดทะลุราคาต่ำสุดของเดือนเมษายนอย่างง่ายดายและเริ่มต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ 1.3000 และปิดที่ 1.2715 โดยเสียตำแหน่งไป 285 จุด
- USD/JPY ผลลัพธ์ของคู่นี้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาแทบจะเป็นศูนย์ ค่าความต่างในราคาระหว่างช่วงเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม และเที่ยงคืนวันที่ 17 พฤษภาคม อยู่ไม่เกิน 10 จุด และราคาปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 110.00
- คริปโตเคอเรนซี น้อยคนคาดการณ์สถานการณ์เช่นนี้: ในช่วงเวลาหกวัน ราคาบิทคอยน์ทะยานขึ้นกว่า 30% แตะถึงระดับ $8,335 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ในแง่บวกทั้งปวงของผู้เชี่ยวชาญกว่า $1000 โดยราคาบิทคอยน์ขยับสูงขึ้นมาตั้งแต่ต้นปีปัจจุบันคิดเป็น 120% ตามความเห็นของนายทอม ลี ผู้ร่วมก่อตั้ง Fundstrat Global Advisors กล่าวว่านี่เป็นการมาถึงของฤดูถัดไปต่อจากฤดูหนาวแห่งเงินคริปโต ซึ่งก็คือ “ฤดูใบไม้ผลิแห่งเงินคริปโต”
ปัจจัยเบื้องหลัง “ฤดูใบไม้ผลิ” ดังกล่าวคือการปิดตำแหน่งขายโดยผู้เล่นรายใหญ่และการเปิดตำแหน่งซื้อจำนวนมากที่ระดับราคา $5,500-6,000 หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อย ผู้เชี่ยวชาญบางท่านเชื่อว่าเหตุการณ์ความรุนแรงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนชาวจีนตัดสินใจคุ้มครองเงินทุนของตนโดยเข้าลงทุนในบิทคอยน์
อย่างไรก็ตาม เงินคริปโตหลักยังคงล้มเหลวที่จะตั้งหลักอย่างมั่นคง ผู้เล่นบางส่วนเลือกเก็บกำไรตั้งแต่เนิ่นๆ และภายในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ราคา BTC/USD ตกลงมาอยู่ที่ระดับ $7,000 โดยเสียมูลค่าที่เพิ่มขึ้นมากว่าครึ่งหนึ่งและส่งผลให้นักลงทุนที่เข้าซื้อเหนือระดับดังกล่าวต้องติดอยู่ในช่วงลบ
สำหรับอัลท์คอยน์สกุลอื่นๆ ก็เคลื่อนที่ตาม “พี่ชายคนโต” บิทคอยน์สกุลหลักตามปกติ โดยราคาขยับขึ้นและลง ส่งผลให้ Litecoin (LTC/USD) เพิ่มขึ้นกว่า 11% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Ripple (XRP/USD) เพิ่มขึ้น 25% และ Ethereum (ETH/USD) ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดที่ 30
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD ความสนใจทั้งหมดในสัปดาห์นี้จะมุ่งไปที่ธนาคารเฟดสหรัฐฯ โดยนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารเฟดจะกล่าวแถลงประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดในวันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พร้อมรายงานความเสี่ยงของระบบการเงินสหรัฐฯ และในวันรุ่งขึ้นจะมีการประกาศผลการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ (FOMC) ของวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งนักลงทุนต่างจับตามองรายงานฉบับดังกล่าว ตลอดจนแนวโน้มนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ ในอนาคต และตัวเลขที่คาดการณ์ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ว่าจะประมาณการที่เท่าใด
ณ ขณะนี้ สถานการณ์ดูค่อนข้างเป็นบวก และมีผู้เชี่ยวชาญ 75% ซึ่งสนับสนุนโดยออสซิลเลเตอร์ส่วนใหญ่และดัชนีเทรนด์กว่า 100% ในกรอบ H4 และ D1 คาดการณ์ว่าค่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นต่อไป ความเห็นในกลุ่มนี้มองว่าราคาจะพยายามตัดทะลุระดับแนวรับที่โซนต่ำสุดของเดือนเมษายนอย่างแน่นอนและราคาจะตกลงต่ำกว่าระดับ 1.1100
ในขณะเดียวกัน ออสซิลเลเตอร์อีก 15% ให้สัญญาณเตือนว่าราคาอยู่ในภาวะถูกขายมากเกินไป นักวิเคราะห์ 25% ระบุว่าอาจมีการปรับตัวของราคาในทิศทางขาขึ้น รวมถึงการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ซึ่งให้ภาพว่าราคาจะขยับขึ้นไปที่แนวต้าน 1.1265 และอาจขยับสูงขึ้นไปอีกที่ระดับ 1.1335 อย่างไรก็ตาม ตามที่ได้อธิบายข้างต้น เหตุการณ์สำคัญในวันที่ 21 และ 22 พฤษภาคม อาจส่งอิทธิพลสำคัญต่อการเคลื่อนที่ของราคาคู่นี้
- GBP/USD ดูเหมือนว่าตลาดยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีเหตุการณ์น่าประหลาดใจใดเกิดขึ้นกับมหากาพย์ตอนถัดไปของเบร็กซิต การประกาศลาออกของนายกฯ เมย์จะมีขึ้นเมื่อใด? และพรรคอังกฤษพรรคใดจะเป็นฝ่ายชนะในการเลือกตั้งสภายุโรป? การลงมติถอนตัวออกจากอียูครั้งถัดไปซึ่งเป็นครั้งที่สี่จะมีผลลัพธ์เป็นเช่นใด? ยังคงมีหลายคำถามมากกว่าคำตอบ และในสถานการณ์เช่นนี้ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ (60%) ก็ทำได้แต่เพียงยักไหล่ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญที่เหลือต่างแบ่งกลุ่มเท่าๆ กัน โดย 20% โหวตให้กับตลาดกระทิงและอีก 20% โหวตให้กับตลาดหมี
สำหรับผลการวิเคราะห์ดัชนีให้ผลที่เหมือนกันกับของคู่ EUR/USD โดยมีสัญญาณออสซิลเลเตอร์ 15% อยู่ในโซนถูกขายมากเกินไป และการวิเคราะห์กราฟในกรอบ D1 ยืนยันว่าราคาจะปรับตัวในขาขึ้น โดยมีระดับแนวรับที่ 1.2665, 1.2614, 1.2475 และ 1.2400 ระดับแนวต้านอยู่ที่ 1.2865, 1.3000 และ 1.3165
ทั้งนี้ ควรคำนึงว่าเมื่อปรับมาพิจารณาคำทำนายในรอบเดือน จำนวนผู้สนับสนุนแนวโน้มกระทิงที่คาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นเหนือระดับ 1.3200 เพิ่มขึ้นเป็น 65% ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งจะประกาศออกมาในวันพุธที่ 22 พฤษภาคม คาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 1.9% เป็น 2.1% ซึ่งอาจส่งผลดีต่อค่าเงินปอนด์ในสัปดาห์นี้ - USD/JPY ข้อมูลอัตราการเติบโตทาง GDP ของญี่ปุ่นจะประกาศออกมาในวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคมนี้ และนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเป็นศูนย์ ผลลัพธ์เป็นศูนย์นี้อาจเป็นสัญญาณที่เลวร้ายสำหรับเงินเยนญี่ปุ่นและจะส่งผลให้ค่าเงินอ่อนตัวเทียบกับเงินดอลลาร์ โดยมีนักวิเคราะห์จำนวน 50% คาดการณ์ว่าราคาคู่นี้จะขยับขึ้นไปที่ระดับ 111.00 ในส่วนผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งในสามเชื่อว่าราคาจะเคลื่อนที่ในช่วง 109.00-110.00 สำหรับผู้เชี่ยวชาญอีก 20% ที่เหลือมองว่าเงินเยนจะแข็งค่าไปอยู่ที่ 108 เยนต่อ $1
ในขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเกือบทั้งหมดเห็นพ้องกันว่าเทรนด์หลักสำหรับคู่นี้จะถูกกำหนดโดยฝั่งสหรัฐฯ มากกว่าฝั่งญี่ปุ่น และจะขึ้นอยู่กับตัวเลขคาดการณ์ของธนาคารเฟดสหรัฐฯ ที่จะประกาศออกมาในวันอังคารและวันพุธที่จะถึงนี้ รวมถึงสถานการณ์ของสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน - คริปโตเคอเรนซี แม้จะมีข่าวร้ายออกมาในวันศุกร์ที่ผ่านมา ฝั่งกระทิงในตลาดคริปโตเผชิญหน้ากับฝั่งหนู ซึ่งหวังว่าแนวโน้มขาลงของราคา BTC/USD มาที่ระดับ $7,000 จะเป็นเพียงแค่การปรับตัวของราคาเท่านั้น และบิทคอยน์จะทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่องในเร็วๆ นี้ ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญจำนวน 50% เห็นด้วยกับสถานการณ์ดังกล่าวและตั้งเป้าหมายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอยู่ที่ $10,000 และตามความเห็นของนักวิเคราะห์จาก Canaccord Genuity ชี้ว่าราคา BTC จะขยับถึง $20,000 ภายในสองปี “เราได้พบความสัมพันธ์ระหว่างช่วงเวลา 2011-2015 และ 2015-2019 และตระหนักว่าเงินคริปโตช่วงแรกทำงานอยู่ในกรอบวัฏจักรรอบสี่ปี ซึ่งยืนยันโดยข้อเท็จจริงว่ากำไรของนักขุดเหมืองจะลดลงทุกๆ สี่ปี” ระบุในรายงานความเห็นของนักวิเคราะห์ดังกล่าว
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งในสี่ระบุว่าราคาบิทคอยน์อาจจะไต่ขึ้นเหนือระดับ $8,500 อย่างยากลำบาก (ซึ่งราคาหยุดชะงักที่ระดับดังกล่าวเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว) และราคาอาจจะขยับเข้าใกล้ระดับนั้นแต่ก็จะขยับออกห่างลงมาในที่สุด
สุดท้ายนี้มีนักวิเคราะห์ที่เหลือ 25% คาดการณ์ว่าราคาบิทคอยน์จะตกลงมาสู่ระดับแนวรับที่ $6,000 ซึ่งราคาได้ขยับอยู่ในช่วงดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - พฤศจิกายนปี 2018
โรมัน บุทโก, NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
กลับ กลับ