อันดับแรกเป็นการทบทวนเหตุการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว:
- EUR/USD ตามรายงานของ Bank of America Merrill Lynch ยุทธศาสตร์ยอดนิยมมากที่สุดในตลาดรองจาก “เข้าซื้อหุ้น” คือ “ขายดอลลาร์” ตำแหน่งขายแบบเก็งกำไรระยะสั้นในดอลลาร์ทำให้ราคาคู่นี้ขึ้นมาถึงระดับสูงสุดในรอบสองปี ดัชนี USD (DXY) ขยับลงต่ำกว่าระดับ 90 โดยราคาเคยอยู่ที่ 102.82 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2020 สำหรับการอ่อนค่าลงของดอลลารในช่วงไม่กี่วันล่าสุดเป็นเพราะข่าวการหารือของสภาคองเกรสสหรัฐฯ เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติม ทั้งนี้ เงินทุกหนึ่งดอลลาร์ที่อัดฉีดเข้าเศรษฐกิจประเทศจะนำไปสู่กำลังซื้อที่อ่อนแอลง
ด้านการประชุมของธนาคารเฟดสหรัฐฯ ที่จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม ไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อตลาด อัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ระดับเดิม และเราอาจพูดได้ว่า อารมณ์ช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสปกคลุมการแถลงข่าว ไม่มีการกล่าวถึงอะไรใหม่ ๆ เกี่ยวกับการขยายมาตรการผ่อนคลายชิงปริมาณ และไม่มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน แต่ท่าทีที่นิ่งเฉยนี้ไม่ได้เป็นเพราะเทศกาลคริสต์มาสอย่างเดียว แต่ยังเป็นเพราะการเปลี่ยนตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประธานาธิบดีคนใหม่ยังคงไม่เข้ารับตำแหน่งในทำเนียบขาว และคนเก่าก็ยังดูมีเรื่องคาราคาซังอยู่
จริง ๆ อยู่ ความหวังของนักลงทุนว่าดัชนี S&P จะเติบโตขึ้นและความคืบหน้าที่ดีของการเจรจาเบร็กซิตส่งผลให้คู่ EUR/USD ขยับขึ้นไปทางเหนือ โดยขึ้นมา 140 จุดตลอดสัปดาห์ ก่อนที่จะปิดตลาดท้ายสัปดาห์ที่ 1.2250 - GBP/USD เมื่อ USD อ่อนค่าลงและปรากฏความหวังว่าการเจรจาเบร็กซิตจะประสบความสำเร็จในท้ายที่สุด ราคาคู่นี้ได้แข็งค่าขึ้นมาสูงขึ้น ทำราคาสูงสุดในรอบสัปดาห์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ 1.3625 แสดงการเติบโตถึง 400 จุด อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้ตามมาด้วยการปรับฐานราคา และราคาปิดตลาดรอบห้าวันทำการใต้ระดับที่ 1.3500
ความเชื่อในข้อตกลงนั้นถูกกระตุ้นโดยรายงานข่าวต่าง ๆ ว่าปัญหาการประมงในน่านน้ำอังกฤษยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญประการสุดท้าย ตลาดได้รับแรงหนุนจากคำแถลงของ นางเออร์ซูลา วอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งกล่าวว่า มี “หนทางแคบ ๆ” ที่จะไปสู่ข้อตกลงฉบับนี้ รวมถึงนายมิเชล บาร์เนีย กรรมการยุโรปด้านการค้าภายใน ผู้กล่าวยืนยันว่า “ยังคงมีโอกาสในการได้ข้อตกลงการค้านี้อยู่”
สหราชอาณาจักรดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยกับข้อตกลงเช่นกัน แต่ก็มีการรายงานว่า “ควรไม่กระทบต่ออำนาจอธิปไตยและควรมีอำนาจเหนือน่านน้ำทะเลเช่นกัน” นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้ขู่ว่าจะห้ามไม่ให้ชาวประมงจากยุโรปเข้ามาในเขตน่านน้ำอังกฤษเป็นเวลาอย่างน้อยแปดปี หากโควตาการทำประมงสามปีของเขาไม่ได้รับการยอมรับ
โดยทั่วไปแล้ว คำถามที่เข้ากับสถานการณ์นี้ก็คือ “จะเป็นหรือไม่เป็น?” จากวรรณกรรม Hamlet ซึ่งเป็นคำถามที่รอคำตอบมากว่า 420 ปี เช่นเดียวกับเบร็กซิตที่ยังคงรอคำตอยอยู่ - USD/JPY เงินเยนญี่ปุ่นเสถียรขึ้น กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในช่วงการซื้อขายเดิม ดอลลาร์อ่อนค่าลง ดัชนี USD (DXY) ปรับตัวลดลง ทั้งหมดนี้ทำให้คู่ USD/JPY ขยับอย่างเรียบ ๆ ในช่วงกรอบระยะกลางขาลง ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา ราคาได้ขยับถึงเส้นตรงกลางของกรอบดังกล่าว ทำราคาต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ 102.85 และจุดสุดท้ายของรอบห้าวันทำการคือ 103.30
- คริปโตเคอเรนซี สิ่งที่จับตารอคอยจากบิทคอยน์เป็นเวลาสามปีเต็มก็ได้เกิดขึ้นจริง ราคาไม่ใช่แค่ทำสถิติสูงสุดใหม่เท่านั้น แต่ยังตัดผ่านระดับ $20,000 โดยทะยานขึ้นไปในช่วงสั้น ๆ ระหว่างวันที่ 12-17 ธันวาคม จาก $18,000 ขึ้นมาที่ $23,620 โดยทำราคาขึ้นมาถึง 30%
หากเราเปรียบเทียบช่วงขาขึ้นระหว่างเดือนธันวาคมปี 2017 กับปี 2020 ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างสองช่วงนี้ ประการแรกก็คือ ปัจจัยที่ผลักดันเดิมเคยเป็นนักลงทุนรายย่อย แต่ตอนนี้เป็นนักลงทุนรายสถาบัน ตามการวิเคราะห์ของบริษัท Chainalysis “ประชากร” ของเหล่าปลาวาฬบิทคอยน์ (1000 BTC และอีกมากมาย) ขยายขึ้นมาโดยมีวอลเล็ตใหม่จำนวน 302 วอลเล็ตนับตั้งแต่ต้นปี และมากที่สุดถึง 2274 วอลเล็ตเมื่อช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา โดยยอดเงินในที่อยู่วอลเล็ตดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่า 1.4 ล้าน BTC ในช่วงเวลานี้
จริง ๆ แล้ว จำนวนผู้ใช้งานรายย่อยก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จำนวนที่อยู่บิทคอยน์ที่มียอดคงเหลือไม่เป็นศูนย์สูงถึง 33 ล้านวอลเล็ต โดยทำสถิติสูงสุดเท่าที่เคยมีมาตามรายงานจากบริการการวิเคราะห์ของ Glassnode จำนวนวอลเล็ตที่มียอดคงเหลือมากกว่า 1 BTC ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดัชนีนี้ทำราคาสูงสุดใหม่ที่ 827,105 ไม่นานมานี้ โดยฟื้นตัวจากภาวะถดถอยเล็กน้อยเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน
แน่นอน เราเคยเขียนถึงเรื่องนี้มาแล้วหลายครั้ง ไวรัสโคโรนาส่งผลต่อความนิยมของบิทคอยน์ อย่างไรก็ดี ตอนนี้หากจะกล่าวถึงการยอมรับคริปโตเคอเรนซีโดยประชากรโลกก็คงจะยังเป็นเรื่องที่เร็วเกินไป ผลสำรวจโดย Opinium และ AltFi ที่สำรวจชาวอังกฤษชี้ว่า มีเพียง 10% เท่านั้นที่ซื้อเงินคริปโต และแม้ว่าผลลัพธ์ของปี 2020 อาจมองได้ว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อปีที่แล้วตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ครึ่งเดียวที่ 5.3% เท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก ทำให้มีศักยภาพของการเติบโตของการตลาดเงินคริปโตอีกมาก ทั้งนี้มูลค่ารวมของตลาดขยับถึง $670 พันล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม
สิ่งที่ต้องให้ความสนใจก็คือ แม้ว่าราคา BTC/USD จะทำลายสถิติราคาของปี 2017 ขึ้นมามากแล้ว มูลค่ารวมในตลาดยังคงไม่ทำลายสถิติที่ $830 พันล้านเหรียญตามสถิติเมื่อวันที่ 7 มกราคมปี 2018 กล่าวคือ การทะยานขึ้นของบิทคอยน์นั้นกระตุ้นโดยปริมาณเงินที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับรอบก่อนหน้าหน้า อาจแปลว่าราคามีแรงซื้อมากเกินไปอย่างยิ่ง ตามที่ปรากฏโดยค่าของดัชนี Crypto Fear & Greed Index ซึ่งขยับขึ้นมาอีกครั้งในรอบเจ็ดวันจาก 89 เป็น 95 และเข้าใกล้กับระดับเพดานที่ 100 ในขณะที่ราคายังคงรอการปรับฐานอยู่นั้น เราควรให้ความสนใจว่า ตอนนี้เป็นช่วงปลายปีและวันหยุดคริสต์มาสกำลังใกล้เข้ามา และสิ่งที่ไม่คาดคิดที่สุดอาจจะเกิดขึ้นในตลาดแห่งนี้ที่ความผันผวนจากศูนย์อาจพุ่งขึ้นอย่างไม่คาดคิด
สำหรับบทวิเคราะห์ของสัปดาห์นี้ เราได้สรุปความเห็นของบรรดานักวิเคราะห์มากมาย รวมถึงคำคาดการณ์ที่วิเคราะห์จากพื้นฐานทางเทคนิคและสถิติกราฟต่างๆ โดยเราสามารถสรุปผลวิเคราะห์ได้ดังต่อไปนี้:
- EUR/USD สัปดาห์หน้านี้ในวันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม การเทรดฟอเร็กซ์จะปิดทำการเวลา 17:00 นาฬิกา ตามเวลา CET และจะไม่มีการซื้อขายใด ๆ ในวันที่ 25 ธันวาคมซึ่งเป็นวันคริสต์มาส (โปรดดูที่เว็บไซต์ NordFX ในส่วนข่าวสารบริษัทเกี่ยวกับรายละเอียดตารางการซื้อขายในช่วงวันคริสต์มาสและวันหยุดปีใหม่ของตลาดเงินตราต่างประเทศและตลาดคริปโตเคอเรนซี รวมถึงสัญญา CFD)
ช่วงปลายปีเป็นช่วงที่เหล่าผู้เล่นรายใหญ่จะปิดตำแหน่ง สรุปผล และเริ่มไปหยุดพักผ่อน แต่ในช่วงที่มีสภาพคล่องต่ำในตลาดนี่เอง นักเทรดจะต้องเตรียมพร้อมหากมีเซอร์ไพรส์กะทันหันขึ้นมา และไม่จำเป็นเสมอไปที่ข่าวเซอร์ไพรส์จะมาแบบเป็นของขวัญจากลุงซานต้า ข่าวเซอร์ไพรส์หลักอาจเป็นข้อตกลงระหว่างอียูและสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับข้อกำหนดเบร็กซิต (หรือการไม่มีข้อตกลง)
ณ เวลาที่เขียนบทวิเคราะห์นี้ อินดิเคเตอร์เทรนด์ 95% บนกรอบ H4 และ 100% บนกรอบ D1 ให้สัญญาณสีเขียว รวมถึงออสซิลเลเตอร์ 75% บนทั้งสองกรอบเวลาก็ชี้ไปทางทิศเหนือ อย่างไรก็ตาม สัญญาณ 25% ที่เหลือชี้ว่า ราคาคู่อยู่ในโซน overbought และอาจมีการปรับฐานราคา
การวิเคราะห์กราฟบน H4 คาดการณ์ว่า การเคลื่อนที่ของคู่นี้ในช่วงการเทรดที่ 1.2175-1.2300 และบน D1 ชี้ว่า มีโอกาสที่ราคาจะเติบโตขึ้นไปยังระดับ 1.2355 ด้านผู้เชี่ยวชาญ 80% เห็นด้วยกับแนวโน้มนี้ ในขณะที่ 20% ที่เหลือคาดว่าราคาจะปรับลดลงมายังแนวรับที่ 1.2100 และเมื่อปรับจากการวิเคราะห์รายสัปดาห์เป็นรายเดือน จำนวนผู้สนับสนุนฝั่งตลาดหมีเพิ่มขึ้นเป็น 65% โดยมีแนวรับที่ใกล้ที่สุดที่ 1.2055 และ 1.1900
- GBP/USD อย่างที่เราได้เขียนวิเคราะห์ไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แนวทางที่เป็นไปได้เกี่ยวกับเบร็กซิตมีอยู่สามทางเลือก ได้แก่
1 - อ่อนโยนปานกลาง คือ การตัดสินใจที่จะขยายข้อกำหนดฉบับปัจจุบันของช่วงเวลาในการเปลี่ยนผ่านออกไปอีกหกเดือนหรือหนึ่งปี เพื่อค่อย ๆ ปรับกฏกติกาให้คล้ายกันกับกติกาพื้นฐานขององค์การการค้าโลก ในกรณีนี้ เงินปอนด์จะไม่ทรุดหนักอย่างพินาศ แม้ว่าค่าเงินปอนด์อาจจะอ่อนค่าลงก็ตาม ซึ่งในกรณีนี้ ระดับแนวรับที่ใกล้ที่สุด ได้แก่ 1.3275 จากนั้นที่ 1.3100, 1.3000 และ 1.2850
2 - เบร็กซิตแบบ “รุนแรงที่สุด” คือไม่มีข้อตกลงหรือการยืดระยะเวลาใด ๆ ซึ่งจะทำให้เงินปอนด์อ่อนค่าลงมาในตอนแรกยังระดับ 1.2700 และต่อมาอาจจะลงมาที่ระดับต่ำสุดของเดือนพฤษภาคมปี 2020 ที่บริเวณ 1.2075-1.2160
3 - การได้ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ระหว่างอียูและสหราชอาณาจักร ในกรณีนี้ เราจะเห็นเงินปอนด์แข็งค่าขึ้นมาในตอนแรกมาที่ระดับ 1.3500 และจากนั้นอาจไปที่ระดับสูงสุดของปี 2018 ที่บริเวณ 1.4350 เราจะได้ทราบอีกไม่นานว่าจะเป็นไปตามแนวทางใด - USD/JPY ออสซิลเลเตอร์ 90% และอินดิเคเตอร์เทรนด์ 100% ยังคงให้สัญญาณสีแดง โดยคาดการณ์ว่าราคาของคู่จะอ่อนค่าลงไปยังกรอบระยะกลางขาลง สำหรับนักวิเคราะห์นั้นเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ทางเทคนิค ซึ่งชี้ตามในกรอบ H4 และ D1 ว่าราคาน่าจะขยับไปในกรอบ 102.70-104.00 กล่าวคืออยู่ตรงกลางและครึ่งบนของกรอบดังกล่าว
- คริปโตเคอเรนซี คุ้มค่าหรือไม่ที่จะรอให้ “ฤดูหนาวแห่งเงินคริปโต” ของปี 2017 ขึ้นปี 2018 กลับมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง? หรือว่าหลังจากที่มีการปรับฐานเล็กน้อย คู่ BTC/USD จะทะยานขึ้นไประดับใหม่อีก?
นายโรเบิร์ต คิโยซากิ เจ้าของหนังสือขายดีอันดับหนึ่งชื่อเรื่อง Rich Dad Poor Dad เชื่อว่า เงินคริปโตจะขยับขึ้นต่อไปยังระดับ $50,000 ในปีหน้านี้เมื่อมีเงินจากสถาบันต่าง ๆ หลั่งไหลเข้ามา ผู้ประกอบการคนนี้ยังกล่าวดูว่า “อเมริกากำลังมีปัญหา” ที่จะนำไปสู่ “การมรณะ” ของดอลลาร์สหรัฐฯ และ “อนาคตอันสดใส” สำหรับทองคำ เงิน และบิทคอยน์
PlanB นักวิเคราะห์เงินคริปโตชาวดัตช์ชื่อดังผู้พัฒนาโมเดล stock-to-flow ที่นิยมของ BTC เชื่อว่า ราคาของบิทคอยน์อาจขยับขึ้นไปถึง $100,000 ภายในสิ้นปี 2021 และอาจขึ้นไปถึง $300,000 PlanB ยอมรับว่า การคาดการณ์นี้ดูจะมองโลกในแง่บวกเป็นอย่างมาก และอาจฟังดูเป็นเรื่องตลกสำหรับนักลงทุนบางราย อย่างไรก็ตาม การทะยานขึ้นของบิทคอยน์ในอดีตทำให้เขาเชื่อในการคาดการณ์นี้
นักวิเคราะห์จากบริษัทการเงิน JPMorgan Chase ก็ชี้ว่า นักลงทุนรายสถาบันอาจลงทุนเป็นเงินสูงสุด $600 พันล้านดอลลาร์ในบิทคอยน์ในช่วงปีข้างหน้า โดยแปลว่าบริษัทประกันสัญชาติอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น และกองทุนเงินบำนาญต่าง ๆ ลงทุนบิทคอยน์เพียง 1% เท่านั้น
นายนิโคเลาส์ พานิเกิร์ตโซกลู นักยุทธศาสตร์ชั้นนำของ JPMorga เน้นย้ำว่า เงินลงทุนมูลค่า $100 ล้านดอลลาร์ล่าสุดโดยบริษัทประกัน Massachusetts Mutual Life Insurance Compay เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการยอมรับบิทคอยน์ขององค์กรจำพวกนี้ ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังยอมรับด้วยว่า มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากที่จะให้นักลงทุนแบบเดิม ๆ ลงทุนในเงินคริปโต เพราะจะยังคงมีเงื่อนไขและกฎระเบียบมากมายสำหรับตัวเลือกสินทัรพย์การลงทุนนี้ ตลอดจนความเสี่ยง และการปฏิบัติตามพันธสัญญา ซึ่งอาจเป็นตัวจำกัดกองทุนต่าง ๆ ในการซื้อ BTC
โดยทั่วไป ประเด็นเรื่องท่าทีของหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลต่อบิทคอยน์เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของพัฒนาการในตลาดนี้ ประเด็นนี้มีการพูดคุยอย่างแข็งขันในการประชุม BlockShow ครั้งล่าสุด ผู้บรรยายกล่าวว่า แม้ว่าฝั่งการเงินที่กระจายศูนย์กลางจำเป็นจะต้องสื่อสารกับทางรัฐบาล แต่ก็ไม่สามารถที่จะประนีประนอมต่อพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์ หากเราเริ่มมีกฎระเบียบในตลาดแห่งนี้ ก็จะทำให้ตลาดนี้แทบไม่มีความแตกต่างจากเงินพันธบัตรทั่วไป
ตอนนี้มาถึงแนวโน้มคู่ BTC/USD สำหรับช่วงสองสามสัปดาห์ข้างหน้า จากการคาดการณ์โดยเฉลี่ยมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นไปถึง $25,000-26,000 อยู่ที่ประมาณ 30% และเหนือ $30,000 ที่ 10% สำหรับแนวโน้มขาลงที่ปรับฐานราคาลงมาที่ $18.500-20,000 อยู่ที่ 20%
สำหรับอัลท์คอยน์ ผู้ที่ในตอนนี้อาจจะยังลังเลที่จะลงทุนในบิทคอยน์อาจให้ความสนใจใน Ethereum หาก BTC ทุบสถิติราคาสูงสุดของปี 2017 โดยขึ้นมาแล้วอีก 16% ETH ก็ยังจะมีราคาให้ขึ้นจากที่ปัจจุบัน $670 ไปยังระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ที่ $1,420 โดยอีธีเรียมเองก็แสดงพฤติกรรมที่ดีกว่าบิทคอยน์ในปีนี้ ซึ่งทำราคาขึ้นมาถึง 640% จากราคาต่ำสุดของเดือนมีนาคมเทียบกับ 456% สำหรับ BTC
นอกจากนี้ อัลท์คอยน์บล็อกเชนอันดับหนึ่งก็ทำการอัปเดตใหม่ โดย Ethereum 2.0 ทำให้เงินคริปโตสกุลนี้มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ มีขนาดที่ดี และหวังว่าจะทำกำไรได้ขึ้นเช่นกัน
และมาถึงจุดนี้เราก็จำเป็นที่จะย้อนไปถึงคำเตือนของ นายวิทาลิค บูเทอริน ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ที่ขอให้คนอย่าไปสร้างหนี้สินหรือกู้ยืมเงินเพื่อมาซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นบิทคอยน์ อีธีเรียม หรือเหรียญอื่นใด เขากล่าวว่าเขาเองมีเงิน “แค่เพียงไม่กี่พันดอลลาร์รวมสุทธิ” ก่อนที่จะมีการพัฒนา Ethereum ขึ้นมา “อย่างไรก็ตาม ผมขายเหรียญบิทคอยน์ออกไปครึ่งหนึ่งเพื่อมั่นใจว่า ผมจะไม่ทรุดหนักหากอยู่ ๆ ราคาดิ่งลงมาเป็นศูนย์” เขาอธิบาย
กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
กลับ กลับ