การคาดการณ์ของธนาคารชั้นนำสำหรับปี 2022: JPY, GBP, CAD, AUD, CHF, SEK, CNH

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้พูดถึงว่าธนาคารและสถาบันชั้นนำของโลกคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับพฤติกรรมของคู่ EUR/USD ในปี 2022 ที่จะถึงนี้ และการที่เราให้ความสนใจกับสิ่งนี้เป็นอันดับแรกก็ค่อนข้างสมเหตุสมผล เพราะคู่นี้เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ และยูโรก็นำหน้าอยู่มากในดัชนี US Dollar Index DXY ที่ 57.6%

ทั้งนี้ ดัชนี DXY ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยธนาคารเฟดสหรัฐฯ ในปี 1973 และแสดงถึงอัตราส่วนของดอลลาร์สหรัฐต่อค่าเงินหลักของโลก 6 สกุล ได้แก่ ยูโร (57.6%) เยนญี่ปุ่น (13.6%) ปอนด์อังกฤษ(11.9%) ดอลลาร์แคนาดา (9.1%) โครนสวีเดน (4.2%) และฟรังก์สวิส (3.6%)

ในความเห็นของเราแล้ว สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในโลกได้เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมากตลอดช่วงเกือบครึ่งศตวรรษนับตั้งแต่มีการใช้ดัชนี DXY และอย่างน้อย หยวนจีนก็ควรจะเป็นส่วนหนึ่งของดัชนีนี้ ดังนั้น เราจะมาดูแนวโน้มสำหรับทั้งสองคู่สกุลเงินที่ก่อตัวเป็นดัชนีดอลลาร์: USD/JPY, GBP/USD, USD/CAD, USD/SEK, USD/CHF และคู่อื่น ๆ ได้แก่ AUD/USD, NZD/USD, EUR/GBP และ USD/CNH

USD/JPY: ญี่ปุ่นจำเป็นต้องมีเงินเยนที่อ่อนแอ

  • เป็นที่ทราบกันดีว่าภาวะเงินเฟ้อประกอบกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน คือ หนึ่งในปัจจัยหลักสองประการที่ธนาคารกลางให้ความสำคัญในการเลือกใช้นโยบายทางการเงิน

    ช่องว่าง GDP ที่เป็นบวกหรือเรียกว่า ช่องว่างอัตราเงินเฟ้อ เพราะว่าเป็นตัวบ่งชี้ถึงการเติบโตของอุปสงค์รวมที่สูงกว่าการเติบโตของอุปทานรวม และทำให้อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวสูงขึ้น ตามการคาดการณ์ของไอเอ็มเอฟในสหรัฐฯ (+ 3.3%) และแคนาดา (+ 0.8%) ในปี 2022 และรัฐบาลจะต้องดำเนินการเพื่อคุมเข้มนโยบายทางการเงินเพื่อชะลอภาวะเงินเฟ้อ ผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารเนเธอร์แลนด์ ING Group (Internationale Nederlanden Groep) คาดการณ์สกุลเงินเหล่านี้โดยเฉพาะ USD ว่าเป็นค่าเงินที่ได้เปรียบเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลประเทศที่ค่า GDP ติดลบ ซึ่งสถานการณ์นี้เรียกว่าภาวะถดถอย เนื่องจากอุปทานที่สูงกว่าอุปสงค์เป็นหนทางไปสู่ภาวะเงินฝืด

    ญี่ปุ่นประสบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาตั้งแต่ปี 2008 และมีแนวโน้มที่จะเผชิญอีกครั้งในปี 2022 ด้วยเหตุนี้เอง นโยบายของธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นจึงเป็นหนึ่งในนโยบายที่ผ่อนคลายมากที่สุด (นโยบายแบบนกพิราบ) ในบรรดาธนาคารกลางหลายประเทศ และอัตราดอกเบี้ยของเงินเยนคงตัวอยู่ที่ระดับติดลบมาเป็นเวลานานที่ -0.1%

    นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติญี่ปุ่นได้กล่าวไม่นานมานี้ว่า เงินเยนที่อ่อนค่าจะช่วยเศรษฐกิจประเทศได้ดีกว่าสร้างความเสียหาย และเขามองว่า หากเงินเยนอ่อนค่า ก็จะช่วยสนับสนุนการส่งออกและเพิ่มกำไรให้กับภาคบริษัท

    ING Group เชื่อว่า ความแตกต่างระหว่างแนวทางของธนาคารเฟดสหรัฐฯ และธนาคารกลางญี่ปุ่นจะช่วยให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินเยน การคาดการณ์รายไตรมาสของ USD/JPY สำหรับปีนี้มีดังนี้: Q1 - 114.00, Q2 - 115.00, Q3 - 118.00 และ Q4 - 120.00

    ธนาคารการเงินฝรั่งเศส Societe Generale คาดการณ์ความเป็นไปได้ที่ราคาคู่นี้จะขยับขึ้นไปที่ 116.00 ในไตรมาสที่ 2 ที่ 50% และสูงถึง 118.00 ที่ 25% โดยผู้เชี่ยวชาญเดิมพันกับ 25% ที่เหลือกับแนวโน้มตลาดหมีว่าราคาจะขยับลงไปที่ 110.00

    นักวิเคราะห์จากธนาคารชั้นนำระดับโลกก็ชื่นชอบดอลลาร์มากกว่าเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขามีความเห็นแตกต่างไปจาก ING การคาดการณ์จำนวนหนึ่งชี้ว่าจุดสูงสุดไม่ได้อยู่ในช่วงปลายปี แต่เป็นช่วงกลางปี ด้านการคาดการณ์ของ Barclays Bank มีดังนี้: Q1 - 115.00, Q2 - 116.00, Q3 - 116.00 และ Q4 - 115.00 ส่วนการคาดการณ์ของ CIBC (Canadian Imperial Bank of Commerce) ให้ภาพรวมที่คล้ายกัน คือ: Q1 - 115.00, Q2 - 116.00, Q3 - 115.00, Q4 - 114.00

    สำนักข่าวรอยเตอร์สได้สัมภาษณ์ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดบนวอลล์สตรีทและเผยแพร่บทความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อมูลค่าของคู่ USD/JPY ในไตรมาสที่สอง-ปลายปี 2022 สำหรับความเห็นส่วนใหญ่ชี้ว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้น: JP Morgan Q3 - 114.00, Amundi Q4 - 116.00, Morgan Stanley Q4 - 118.00 ในทางกลับกัน Goldman Sachs เชื่อว่าราคาคู่นี้จะขยับลงไปที่ 111.00 ในปี 2023

GBP/USD: ที่ทางสามแยก

  • สำหรับอนาคตของเงินปอนด์อังกฤษ Barclays Bank มีมุมมองที่รักชาติเป็นอย่างมาก นักยุทธศาสตร์มองว่าเงินปอนด์มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงมากและทำนายว่าคู่ GBP/USD จะกลับมาสู่ระดับสูงสุดของปี 2021 และขึ้นไปที่ 1.4200 ภายในสิ้นปี

    ต่างไปจากธนาคารหลายแห่ง Barclays เชื่อว่า นโยบายของธนาคารเฟดสหรัฐฯ จะไม่ให้การสนับสนุนที่แข็งแกร่งต่อดอลลาร์แต่อย่างใด และสิ่งนี้จะนำไปสู่ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงปานกลาง ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารคาดว่าธนาคารกลางแห่งอื่น ๆ จะมีท่าทีที่ดุดันมากกว่าธนาคารเฟด โดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า และจะเป็นตัวจำกัดความน่าดึงดูดของดอลลาร์ อันดับแรกในที่นี้ เรากำลังพูดถึงธนาคารแห่งชาติอังกฤษ

    สำหรับภาพรวมเงินปอนด์ในระยะสั้น นักวิเคราะห์จาก Barclays’ มีความระมัดระวังมากกว่าในที่นี้ เพราะผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อสูงจะปรับความสนับสนุนจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อย นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ และปัญหากับอียูเนื่องด้วยเบร็กซิตเป็นสิ่งที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย ดังนั้น การคาดการณ์รายไตรมาสของ Barclays' จึงมีดังนี้: Q1 - 1.3300, Q2 - 1.3700, Q3 - 1.4000 และ Q4 - 1.4200

    Capital Economics หนึ่งในศูนย์กลางการวิจัยอิสระชั้นนำของสหราชอาณาจักรมีท่าทีในทางตรงกันข้าม ผู้เชี่ยวชาญที่นี่กลับมองว่า เงินปอนด์จะอ่อนค่า และคาดการณ์การผสมผสานกันระหว่าง 1) การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ 2) อัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัว และ 3) ความเชื่องช้าของธนาคารแห่งชาติอังกฤษ ปัจจัยสามประการเหล่านี้จะนำไปสู่การดำเนินการของธนาคารแห่งชาติอังกฤษในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.5% ในช่วงหลายเดือนข้างหน้าแทนที่ 1.0% และจะทำให้ตลาดต้องผิดหวังในที่สุด

    แต่นอกเหนือไปจากการเติบโตและการอ่อนค่าลงของเงินปอนด์อังกฤษแล้ว ยังมีสถานการณ์ที่สามที่อาจเกิดขึ้นได้ นักวิเคราะห์จาก ING Group ทำนายว่า เงินปอนด์จะอยู่ตรงกลางของสามเหลี่ยมของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์ที่คงที่ และสกุลเงินผลตอบแทนต่ำที่อ่อนแอลง ดังนั้น ตามการคาดการณ์นี้ คู่ GBP/USD จะขยับในทิศทางด้านข้าง: Q1-1.3300, Q2-1.3400, Q3-1.3400 และ Q4-1.3400

คู่สกุลเงินอื่น ๆ

  • หาก Barclays Bank เชื่อในค่าเงินประเทศตนเอง ผู้เชี่ยวชาญ CIBC (Canadian Imperial Bank of Commerce) มีทัศนคติในทางค่อนข้างลบต่ออนาคตต่อค่าเงินของประเทศ พวกเขามองว่า ดอลลาร์แคนาดาอาจอ่อนค่าลงในปีนี้ “ตลาดมีความคาดหวังสูงเกินไปในท่าทีของธนาคารกลางแคนาดาในปี 2022” กล่าวโดย CIBC, “และมีความคาดหวังต่อท่าทีของธนาคารเฟดในปี 2022 ต่ำเกินไป สิ่งนี้จะส่งผลให้ CAD ไม่เป็นที่น่าสนใจต่อนักลงทุน” การคาดการณ์ของธนาคารสำหรับคู่ USD/CAD จึงมีดังนี้: Q1-1.2800, Q2-1.2900, Q3-1.3000 และ Q4-1.3000
  • ผู้เชี่ยวชาญที่ HSBC (Hongkong and Shanghai Banking Corporation) เชื่อว่า ค่าเงินบางสกุลจะยังสามารถยืนหยัดรับมือกับดอลลาร์ที่แข็งแกร่งกว่าได้ เช่น ดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่ง HSBC เชื่อว่า ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจมีการดำเนินการที่ดุดันมากกว่า เนื่องด้วยสถิติเศรษฐกิจมหภาคของประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง
  • นักยุทธศาสตร์ ING ไม่ตัดโอกาสที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอาจได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ต่ำเกินจริงและอยู่ในภาวะที่มีแรงขายสูงเกินไป อย่างไรก็ตาม การถือตำแหน่งซื้อสำหรับคู่ AUD/USD ก็ยังมีความเสี่ยงสูงในมุมมองของพวกเขา
  • นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญ ING มองว่า ยูโร (EUR/USD) และเยนญี่ปุ่น (USD/JPY) รวมถึงฟรังก์สวิสจะตามหลังดอลลาร์เป็นอย่างมาก (USD/CHF) ในปี 2022 รวมถึงเงินโครนสวีเดน (USD/SEK)
  • สำหรับการคาดการณ์ของ Barclays Bank สำหรับคู่สกุลเงินอื่น ๆ ที่มีให้บริการซื้อขายโดยบริษัทโบรกเกอร์ NordFX มีดังต่อไปนี้: EUR/GBP : Q1 - 0.87, Q2 - 0.86, Q3 - 0.85, Q4 - 0.84 | USD/CHF : Q1 - 0.91, Q2 - 0.90, Q3 - 0.90, Q4 - 0.90 | AUD/USD : Q1 - 0.75, Q2 - 0.76, Q3 - 0.77, Q4 - 0.78 | NZD/USD : Q1 - 0.73, Q2 - 0.73, Q3 - 0.73, Q4 - 0.73 | USD/CAD : Q1 - 1.23, Q2 - 1.22, Q3 - 1.21, Q4 - 1.21 | USD/CNH : Q1 - 6.35, Q2 - 6.30, Q3 - 6.40, Q4 - 6.50.

 

กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX

 

หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา