คำถามสำคัญปรากฏขึ้นมาเมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เมื่อฟองสบู่คริปโตใกล้จะแตก ต่อมาบิทคอยน์ก็ค่อย ๆ เข้ามาอยู่ทั้งในความคิดและพอร์ตของนักเทรดและนักลงทุนหลายคน ทองคำดิจิทัลเริ่มแข่งขันกับทองคำจริง รวมถึงสินทรัพย์เพื่อการลงทุนและสินทรัพย์ปลอดภัยอื่น ๆ จนเป็นคู่แข่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในช่วงปีที่ผ่านมา ข้อดีและข้อเสียของบิทคอยน์กลายเป็นประเด็นที่มีการพูดคุยถกเถียงกันมาก มาพร้อมกับการวิเคราะห์ช่วงเวลาขาขึ้นและขาลงของเหรียญนี้ในมุมมองจากทั้งผู้เชี่ยวชาญจากวอลล์สตรีท และนักวิเคราะห์ที่ใช้นามสมมติมากมายบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค สิ่งสำคัญก็คือ คำทำนายจากทั้งสองกลุ่มจำนวนไม่น้อยค่อนข้างแม่นยำ แม้ว่าสินทรัพย์นี้จะมีความผันผวนที่สูงมาก ส่วนวันนี้เราจะมาโฟกัสเรื่องบทวิเคราะห์บิทคอยน์ของปี 2023 บทวิเคราะห์สำหรับปี 2024 และอนาคต โดยจะเน้นการคาดการณ์จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำทำนายแบบเฉพาะเจาะจงมากกว่าคำพูดแบบกว้าง ๆ
2023: ผู้ที่ตอบได้แม่นยำหรือใกล้เคียง
ก่อนอื่นเราต้องไม่ลืมว่า ปีที่ผ่านมานี้เป็นปีที่ประสบความสำเร็จสำหรับบิทคอยน์อย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่าราคาจะทั้งขึ้นและลง BTC/USD เริ่มต้นปีที่ $16,515 ขึ้นทำระดับสูงสุดที่ $44,694 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม โดยทำราคาขึ้น 2.7 เท่า ในบรรดาเหตุผลที่ราคาบิทคอยน์ทะยานขึ้นนั้น ผู้เชี่ยวชาญอ้างถึงการเติบโตขึ้นของแฮชเรตเครือข่าย ขณะที่กำลังรอเฝ้าดูนโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายลงของธนาคารเฟดสหรัฐฯ และแน่นอนรวมถึงการอนุมัติกองทุนสปอตบิทคอยน์ ETFs โดยคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) และ Bitcoin Halving ในเดือนเมษายน 2024 ทั้งนี้ เหตุการณ์เหล่านี้เริ่มมีอิทธิพลต่ออารมณ์ตลาดเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 เท่านั้น ดังนั้น การคาดการณ์ที่เคยให้ไว้ตั้งแต่ครึ่งแรกของปีจึงมีความน่าสนใจเป็นพิเศษ
Alistair Milne, ผู้อำนวยการด้าน IT ของ Altana Digital Currency Fund ได้ทำนายอย่างแทบจะแม่นยำโดยสมบูรณ์ว่า “ภายในสิ้นปี 2023 เราน่าจะได้เห็นบิทคอยน์ที่ราคาอย่างต่ำ $45,000” ซึ่งเขาประกาศไว้ตั้งแต่เดือนมกราคม
Mark W. Yusko ประธาน Morgan Creek ได้ให้การคาดการณ์ไว้อย่างชัดเจนว่า ตลาดกระทิงรอบถัดไปน่าจะเริ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่สองของปี 2023 เนื่องด้วยสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เอื้อต่อราคา เขาให้ข้อสังเกตว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ธนาคารเฟดสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยหลักในช่วงเวลานี้ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวหรือดอกเบี้ยพักตัวอาจถูกมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับสินทรัพย์กลุ่มเสี่ยง รวมถึงคริปโตเคอเรนซี Yusko เน้นย้ำถึง Halving ที่จะมาถึง โดยชี้ว่า การฟื้นตัวของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลมักจะเริ่มขึ้น 9 เดือนก่อนเหตุการณ์ดังกล่าว จึงบ่งชี้ว่า การทะยานขึ้นน่าจะเกิดขึ้นภายในฤดูร้อนปี 2023
ผู้เชี่ยวชาญที่ Matrixport ได้เปรียบเทียบราคา BTC ในเดือนมกราคมกับสถิติในอดีต และคาดหวังการชะลอตัวในการเติบโตของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) โดยให้คำทำนายอย่างแม่นยำว่า อัตราแลกเปลี่ยนบิทคอยน์จะแตะ $29,000 ภายในฤดูร้อน และ $45,000 ภายในช่วงคริสต์มาส ราคาดังกล่าวแตะเป้าหมายอย่างแม่นยำเห็นได้ชัดเจนตามการวิเคราะห์ของพวกเขา
Michael Van De Poppe นักเทรด นักวิเคราะห์ และผู้ก่อตั้ง Eight บริษัทระดมทุน ได้เผยแพร่วิดีโอที่รีวิวการคาดการณ์ราคาเหรียญที่ $40,000 ภายในสิ้นปี การคาดการณ์ดังกล่าวให้ไว้ตั้งแต่เดือนมีนาคม คล้ายกันนั้น Mike Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital คาดการณ์ว่าราคาจะขยับขึ้นไปที่ $40,000 โดยมีข้อแม้ว่าราคาจะไปถึงระดับนี้เฉพาะเมื่อธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มลดอัตราดอกเบี้ย Dave the Wave นักเทรดที่มีชื่อเสียงเรื่องทำนายได้แม่นยำหลายครั้ง ให้เป้าหมายเดียวกันที่ $40,000 ในเดือนพฤษภาคม โดยเน้นว่านี่เป็นเพียงการคาดการณ์แบบระมัดระวังเท่านั้น
BTC/USD ขยับลงมาต่ำกว่า $25,000 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมิถุนายน และตลาดในขณะนั้นยังไม่รู้ว่า ในเวลาไม่กี่วันหลังจากนั้น สถาบันการเงินรายใหญ่จะเริ่มยื่นใบสมัครต่อ SEC เพื่อขอเข้าถึงตลาดคริปโตผ่านกองทุนสปอตบิทคอยน์ ETFs ในบรรดาผู้ยื่นขออนุญาตเปิดกองทุนดังกล่าว ได้แก่ บริษัทบริหารทรัพย์สินระดับโลกอย่าง BlackRock, Invesco, Fidelity และอื่น ๆ ในตอนนี้เอง Business Insider ได้ให้ความสนใจกับการคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญ โดยมีความคิดเห็นบางส่วนที่รวบรวมได้จากแบบสำรวจดังนี้
Jagdeep Sidhu ประธาน Syscoin Foundation เชื่อว่าถึงแม้จะมีพายุคริปโตหลายลูก แต่ความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยังคงเห็นได้ชัดเจน ตลาดได้ฟื้นตัวจากเหตุการณ์ล่มสลายของ FTX และหากภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ลดลง บิทคอยน์อาจแตะ $38,000 ภายในสิ้นปี กล่าวโดย Sidhu ด้าน David Uhryniak ผู้อำนวยการ Director of Ecosystem Development ที่ TRON รวมถึง Benjamin Cowen มั่นใจว่าบิทคอยน์จะปิดท้ายปีเหนือระดับ $35,000
การคาดการณ์ที่เห็นพ้องกันจากอีกแบบสำรวจหนึ่งโดย Finder.com ซึ่งสำรวจนักวิเคราะห์ 29 คน ชี้ว่าราคาจะไปถึง $38,488 ภายในสิ้นปี โดยคาดว่าราคาสูงสุดของปี 2023 จะอยู่ที่บริเวณ $42,000 โดยทั่วไปแล้ว การคาดการณ์ของผู้เชี่ยวชาญจะมีความหลากหลายแตกต่างกันไป ส่วนใหญ่แล้ว (59%) มีความเห็นในทางบวกต่อ BTC และมองว่าฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะเข้าสู่ตลาด และมี 34% ที่แนะนำให้ถือคริปโตไว้ และ 7% แนะนำให้ขาย
2023: สูงหรือต่ำกว่าเป้าหมาย
แน่นอนว่าไม่ใช่การคาดการณ์ทั้งหมดจะใกล้เคียงกับผลลัพธ์ของปีนี้ อีกหนึ่งเป้าหมายที่มีคนพูดถึงบ่อยคือ $50,000 ซึ่งนักวิเคราะห์อย่าง CryptoYoddha, ผู้เชี่ยวชาญที่ TradingShot, และ Raoul Pal อดีตผู้บริหารสูงสุดของ Goldman Sachs และซีอีโอของ Real Vision ชี้ว่า BTC/USD จะไปถึงระดับดังกล่าว ด้านนักเทรดในตำนานและนักวิเคราะห์ชื่อ Peter Brandt ผู้เคยทำนายการปรับฐานของ BTC ในปี 2018 ได้อย่างถูกต้อง ตั้งเป้าหมายไว้สูงกว่าในครั้งนี้ เขาเชื่อว่าบิทคอยน์จะไปถึงระดับสูงสุดก่อนหน้าใกล้บริเวณ $68,000 ในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 ตามมาด้วยการปรับฐานอีกครั้งและราคาสูงสุดใหม่
ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2023 นักวิเคราะห์ภายใต้ชื่อสมมติ Plan B ให้คำทำนายว่าบิทคอยน์จะขึ้นไปถึง $100,000 ภายในสิ้นปี นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์ว่าบิทคอยน์อาจทดสอบที่ระดับ $42,000 ตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยอ้างโมเดล stock-to-flow (S2F) ที่เขาพัฒนาขึ้นมา โมเดลนี้วัดความสัมพันธ์ระหว่างอุปทานของสินทรัพย์และอัตราการผลิต อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เราทราบกันดีว่าราคาทดสอบระดับ $42,000 เก้าเดือนถัดมาเท่านั้นคือในเดือนธันวาคม และ $100,000 ยังเป็นระดับที่ไปไม่ถึงจริง
Felix Zulauf ผู้ก่อตั้ง Zulauf Asset Management ได้คาดการณ์ว่า บิทคอยน์จะเข้าสู่ช่วงตลาดขาขึ้นที่ชัดเจนช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิปี 2023 และไม่ได้ตัดโอกาสความเป็นไปได้ที่สินทรัพย์อาจขยับถึง $100,000 ในช่วงเทรนด์ขาขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก Credible Crypto ก็ให้การคาดการณ์ในทางบวกเช่นกันว่า บิทคอยน์มีโอกาสอย่างมากที่จะทำระดับสูงสุดใหม่ในโซน $69,000 ผลการสำรวจบรรดาอินฟลูเอนเซอร์ในวงการโดย CNBC ชี้ว่ามีผู้ที่คาดหวังว่าราคาจะกลับมาทดสอบระดับ $69,000 คือ CTO Paolo Ardoino ในขณะที่ Marshall Beard ผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์ของแพลตฟอร์มคริปโต Gemini ชี้ไว้ที่ระดับ $100,000 ส่วนนาย Robert Kiyosaki เจ้าของหนังสือชื่อดังเรื่อง "Rich Dad Poor Dad" Robert Kiyosaki ได้ตั้งเป้าหมายไว้สูงกว่านั้น และกล่าวว่าบิทคอยน์จะไปถึง $120,000 ภายในต้นปี 2024
ตลาดไม่ได้ขับเคลื่อนโดยฝั่งกระทิงเท่านั้น แต่เราก็จะเจอกับฝั่งหมีและแม้แต่กลุ่ม “ผู้ที่ขุดหลุมฝังคริปโต” ด้วยเช่นกัน เช่น Mike McGlone นักวิเคราะห์จาก Bloomberg ได้กล่าวในเดือนพฤษภาคมว่า บิทคอยน์น่าจะทรุดลงมายังแนวรับที่ $7,366 ซึ่งเป็นมุมมองที่ตรงกันข้ามกับความเห็นของเขาในปีก่อนหน้า 2022 ซึ่งเขาเคยทำนายไว้ว่าราคาบิทคอยน์จะพุ่งขึ้นไปที่ $100,000
นักยุทธศาสตร์จาก Standard Chartered เครือบริษัทการเงินระหว่างประเทศของอังกฤษคาดว่า วิกฤติสภาพคล่องจะนำมาซึ่งเหตุการณ์แพลตฟอร์มและบริษัทคริปโตล้มละลายรอบใหม่ ส่งผลให้ BTC ร่วงลงมาที่ $5,000 ในปี 2023 นักวิเคราะห์ที่รู้จักกันในชื่อ Grinding Poet ถึงขนาดประกาศว่า “การกลับมาทดสอบระดับต่ำสุดของปี 2018 นั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้” และตั้งเป้าหมายใหม่ไว้ที่ $3,150
2024: ทัศนคติที่ดีและทัศนคติที่ดีเยี่ยม
Jamie Coutts นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence ได้ให้คำทำนายการคาดการณ์ของราคาบิทคอยน์ขึ้นมาที่ $50,000 ก่อน Halving ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเมษายน Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสของ Bloomberg อธิบายว่า การอนุมัติการขอเปิดกองทุนสปอตบิทคอยน์โดย SEC จะเป็นการเปิดทางบิทคอยน์สู่ตลาดทุนมูลค่ากว่า $30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ Bloomberg คาดว่าการอนุมัติจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ประมาณวันที่ 8-10 มกราคม ตามการคาดการณ์ของบริษัทด้านการวิเคราะห์ Fundstrat ชี้ว่า การอนุมัติดังกล่าวอาจช่วยเพิ่มความต้องการรายวันของบิทคอยน์ $100 ล้านดอลลาร์ฯ ในสถานการณ์นี้ ราคา BTC จึงอาจขึ้นไปถึง $180,000 ได้ตั้งแต่ก่อนจะถึงการ Halving
Adam Back ซีอีโอของ Blockstream และหนึ่งในผู้พัฒนา BTC ยุคแรกต้นได้เปรียบช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมากับภาวะการแพร่ระบาด “ทั้งเหตุการณ์โควิด 19 มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลาง สงครามที่ส่งผลต่อต้นทุนพลังงาน ภาวะเงินเฟ้อต่างบีบให้คนและบริษัทต้องล้มละลาย” เขาอธิบาย ในช่วงใกล้สิ้นปี 2023 ผลที่ตามมาของเหตุการณ์เหล่านี้เริ่มเบาบางลง “ภาวะล้มละลายที่เกี่ยวข้องกับ Three Arrows Capital, Celsius, BlockFi, และ FTX…ทั้งหมดนั้นแทบจะจบลงแล้ว ผมไม่คิดว่าเราจะมีเรื่องประหลาดใจครั้งใหญ่รออยู่” Back เชื่อว่าปี 2024 จะเป็นปีที่บิทคอยน์ฟื้นตัว ตอบสนองต่อ Halving ที่จะมีขึ้น และมีโอกาสที่ราคาจะไปถึง $100,000 ก่อนอีเวนต์ดังกล่าว
Samson Mow อดีตเพื่อนร่วมงานของ Back ที่ Blockstream และปัจจุบันเป็นซีอีโอของ Jan3 เห็นด้วยกับการประเมินนี้ ผู้เชี่ยวชาญที่ Seeking Alpha ก็ให้ตัวเลขที่คล้ายกัน โดยชี้ว่าบิทคอยน์น่าจะมีมูลค่าอยู่ที่บริเวณ $98,000 เพื่อให้นักขุดเหรียญยังคงมีกำไรหลัง Halving
ผู้เชี่ยวชาญจาก Standard Chartered โดยเฉพาะ Geoff Kendrick ให้มุมมองที่คล้ายกัน นักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารแห่งนี้กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันชี้ถึงจุดสิ้นสุดของ “ฤดูหนาวคริปโต” อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ของพวกเขานั้นมีความระมัดระวังมากกว่าเล็กน้อย โดยคาดว่าบิทคอยน์จะแตะ $100,000 ภายในสิ้นปี 2024 เท่านั้น ด้าน Steve Wozniak ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Apple ก็เห็นด้วยกับเลขตัวกลมนี้เช่นกัน Pascal Gauthier, ซีอีโอของ Ledger, David Marcus ประธานบริษัท Lightspark, และ Vijay Ayyar หัวหน้าสูงสุดของ CoinDCX คาดการณ์เช่นกันว่าราคาบิทคอยน์จะไปถึง $100,000
Robert Kiyosaki นักลงทุนและเจ้าของหนังสือเล่มขายดีเรื่อง "Rich Dad Poor Dad" เชื่อว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังอยู่ปริ่มวิกฤติครั้งรุนแรง และคริปโตเคอเรนซี โดยเฉพาะบิทคอยน์จะเป็นที่หลบภัยให้ในช่วงเวลาที่โกลาหลนี้ Kiyosaki คาดการณ์ว่า การ Halving จะเป็นเหตุการณ์สำคัญ โดยคาดว่าจะดันราคา BTC ขึ้นไปถึง $120,000 Markus Thielen ประธาน Matrixport บริการวิจัยและบริการคริปโตการเงินให้ตัวเลขที่คล้ายกันคือ $125,000 ส่วนด้าน Lark Davis บล็อกเกอร์และนักวิเคราะห์ชื่อดังเชื่อว่า เหตุการณ์ดังกล่าวอาจพาราคาบิทคอยน์ขึ้นไปที่บริเวณ $150,00 หรืออาจขึ้นไปสูงถึง $180,000 Tom Lee ผู้ร่วมก่อตั้ง Fundstrat ให้ตัวเลขคาดการณ์ไว้ที่ $185,000
ตามการคำนวณโดย Dave the Wave ชี้ว่า BTC ช่วงหลัง Halving ในเดือนเมษายน 2024 จะขยับขึ้นเหนือระดับสูงสุดก่อนหน้าที่บริเวณ $69,000 เพียงเล็กน้อยภายในกลางปี 2024 แต่ราคาอาจพุ่งขึ้นไปที่ $160,000 ภายในสิ้นปี Alistair Milne คาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2024 ราคา BTC อาจแตะที่ $150,000-$300,000 อย่างไรก็ตาม เขาก็เตือนว่า “นี่อาจเป็นโอกาสสูงสุดของฝั่งกระทิง” นักวิเคราะห์จาก LookIntoBitcoin แนะนำให้เข้าเก็บกำไรเมื่อราคาแตะที่อย่างน้อย $110,000
และสุดท้ายนี้ เราจะมาพิจารณาความคิดเห็นล่าสุดจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ซึ่งให้เสียงที่ค่อนข้างไปในทางเดียวกันมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก Finbold ได้สอบถาม Google Bard เกี่ยวกับมูลค่าของบิทคอยน์ที่น่าจะเป็นไปได้หลัง Halving ที่ทุกคนต่างจับตาดูในปี 2024 นี้ AI คาดการณ์ว่าบิทคอยน์น่าจะทำระดับสูงสุดใหม่ ไม่ใช่เพราะแค่ Halving เท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะการยอมรับ BTC ในวงกว้างมากขึ้น และความสนใจจากนักลงทุนรายสถาบัน ด้าน Google Bard ชี้ว่า หลังจาก Halving บิทคอยน์อาจทะยานขึ้นไปที่ $100,000 อย่างไรก็ตาม AI ก็เน้นถึงปัจจัยที่อาจจำกัดการเติบโตของคริปโตด้วยเช่นกัน และไม่ตัดโอกาสที่ฤดูหนาวคริปโตอาจยืดเยื้อต่อไปในปี 2024
ในทางกลับกัน มุมมองจากฝั่งคู่แข่งของ Google Bard ซึ่งก็คือ ChatGPT ที่พัฒนาขึ้นโดย OpenAI ดูมีทัศนคติในทางบวกมากกว่า โดยชี้ว่าบิทคอยน์มีโอกาสที่จะทะยานขึ้นไปสูงถึง $150,000 (ที่น่าสนใจก็คือ ภาพประกอบบทความนี้ก็เป็นภาพที่สร้างขึ้นมาโดย AI เช่นกัน ซึ่งในที่นี้คือ Microsoft Bing)
2024: ทัศนติเชิงบวกปานกลางและเชิงลบปานกลาง
เมื่อพิจารณาสถานการณ์ข้างต้นทั้งหมดและนำมารวมกันเป็นการคาดการณ์แบบเอกฉันท์ เราจะได้กรอบราคาที่ประมาณ $100,000 ถึง $180,000 แม้ว่ากรอบดังกล่าวจะดูน่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับนักลงทุน แต่ก็มีการคาดการณ์ที่มีความระมัดระวังหรืออาจเป็นไปในทางลบด้วยเช่นกัน
นักวิเคราะห์ PlanB ได้พลาดเป้าหมายของเขาในปี 2023 ซึ่งในครั้งนี้เขาลดการคาดการณ์ลงเป็นอย่างมาก “คาดว่าบิทคอยน์จะอยู่ที่ $32,000 ก่อน Halving” เขาเขียนต่อ “ราคาจะขึ้นไปที่ $55,000 ในช่วง Halving และจากนั้นภายในสิ้นปี บิทคอยน์อาจไต่ขึ้นไปที่ $66,000” ด้าน Arthur Hayes อดีตซีอีโอของแพลตฟอร์มคริปโต BitMEX คาดการณ์เช่นกันว่าราคาบิทคอยน์จะขึ้นไปแตะเป้าหมาย “ปานกลาง” ที่ $70,000
อีกมุมมองที่ดูมีสติมจากบริษัท CryptoVantage ซึ่งได้สำรวจพนักงานนักลงทุนคริปโต 1,000 คนในสหรัฐฯ มีเพียง 23% เท่านั้นที่เชื่อว่า บิทคอยน์จะแตะระดับสูงสุดในอดีตที่ $68,917 ในปีที่จะถึงนี้ 47% เชื่อว่า ราคาเหรียญจะขึ้นไปที่ระดับดังกล่าวภายในห้าปี 78% มั่นใจว่า BTC จะกลับมายังระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ แต่จะเกิดขึ้นในวันที่ที่ยังระบุชัดเจนไม่ได้ แต่ 9% เชื่อว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกครั้ง
Glen Goodman นักวิเคราะห์จาก BBC World เข้าร่วมกลุ่มผู้กังขาเช่นกัน เขาให้ความเห็นว่า $120,000 “ดูเหมือนจะเป็นตัวเลขที่ได้ลอย ๆ มาจากอากาศ มากกว่าการคาดการณ์ที่มีหลักฐานรองรับตามความเป็นจริง” Goodman โต้แย้งกลุ่มที่คาดการณ์ตลาดกระทิงทั้งหลายว่า พวกเขาเพิกเฉยต่อปัจจัยหลายข้อ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดก็คือ ทางการสหรัฐฯ กำลังเพ่งเล็งอุตสาหกรรมคริปโตอย่างหนักหน่วง ทั้งด้วยคดีความและการสอบสวนต่าง ๆ ในสถานการณ์เช่นนี้ ผู้เชี่ยวชาญจาก JP Morgan เชื่อว่า บิทคอยน์จะมีราคาซื้อขายอยู่ที่บริเวณ $45,000 โดยพิจารณาว่าราคานี้เป็นกรอบด้านบน ซึ่งแสดงถึงศักยภาพที่จำกัดของสินทรัพย์
2025 และอนาคต: $1,000,000 ถึง $10,000,000 ใครทำนายไว้สูงกว่านั้น?
"การมองไปไกลในอนาคตไม่ใช่การมองการณ์ไกล” กล่าวโดย Sir Winston Churchill อดีตนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรในช่วงปี 1940-1945 และ 1951-1955 แม้ว่าเราจะต้องใส่ใจในคำแนะนำของอดีตผู้นำประเทศอังกฤษท่านนี้ แต่อินฟลูเอนเซอร์หลายคนยังคงกล้าที่จะทำการคาดการณ์ระยะยาว โดยไม่กลัวว่าจะถูกมองว่ามองการณ์ใกล้เกินไป
ผลลัพธ์เฉลี่ยจากการสำรวจผู้เชี่ยวชาญ 29 คนที่จัดทำขึ้นโดย Finder.com ชี้ให้เห็นว่า ราคา BTC อาจแตะถึง $100,000 ไม่ใช่ในปี 2024 แต่เป็นปี 2025 และอาจจะทะยานขึ้นไปถึง $280,000 ภายในสิ้นปี 2030 นักวิเคราะห์ที่มีชื่อว่า Trader Tardigrade เชื่อว่า บิทคอยน์กำลังขยับตามโครงสร้างราคาเดิมอย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงปี 2013 ถึง 2018 หากโมเดลนี้มีความแม่นยำ “กระแส” ราคาในช่วงต้นอาจพาราคาบิทคอยน์ขึ้นไปที่ $400,000 ภายในปี 2026
Tim Draper นักลงทุนแบบระดมทุนยุคที่สาม และผู้ร่วมก่อตั้ง Draper Fisher Jurvetson มีความเห็นในทางบวกเกี่ยวกับปี 2025 เขาเชื่อว่า Halving จะส่งผลต่อราคาสกุลเงินคริปโตเป็นอย่างมาก ในที่สุดจะพาราคาไปถึง $250,000 ก่อนหน้านี้ เขาได้ทำนายว่า BTC อาจแตะถึงระดับดังกล่าวภายในสิ้นปี 2022 เมื่อการคาดการณ์ของเขาไม่เป็นจริง เขาก็ขยายเวลาออกเป็นกลางปี 2023 ในครั้งนี้ Draper ได้ทบทวนการคาดการณ์ของเขาอีกครั้ง และกล่าวอย่างมั่นใจว่า บิทคอยน์จะไปถึงราคาเป้าหมายภายในสิ้นเดือนมิถุนายน 2025 เขามองว่า ปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตจะเป็นการยอมรับ BTC โดยกลุ่มผู้หญิง โดยชี้ว่าบรรดาแม่บ้านที่ใช้บิทคอยน์ในการซื้อขายจะเป็นปัจจัยที่สำคัญในการยอมรับเหรียญเป็นวงกว้างมากขึ้น
Mike Novogratz ซีอีโอของ Galaxy Digital เชื่อว่า ความต้องการสำหรับตราสารทางการเงินแบบทางเลือกจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งบิทคอยน์เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการเงินดังกล่าว เขาทำนายว่าในระยะยาว ราคาบิทคอยน์อาจขึ้นไปถึง $500,000 ด้าน Arthur Hayes อดีตซีอีโอแพลตฟอร์มคริปโต BitMEX และ Max Keiser อดีตนักเทรดและพิธีกรทีวีที่ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาให้กับประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ ทั้งสองคนได้อ้างถึงตัวเลขที่ $1 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญในอนาคต Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง MicroStrategy มีมุมมองหลายขั้วมากกว่า โดยกล่าวว่า “บิทคอยน์จะร่วงลงเหลือศูนย์หรือพุ่งขึ้นถึง $1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ”
Cathy Wood ซีอีโอ ARK Invest คาดการณ์ว่ามูลค่ารวมของตลาดคริปโตจะเพิ่มขึ้นเป็น $25 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 2100% เส้นฐานของ ARK Invest ชี้ว่าบิทคอยน์อาจมีราคาขึ้นไปถึง $650,000 ในช่วงเวลานี้ ในขณะที่การคาดการณ์ในทางบวกยิ่งกว่าชี้ว่าราคาสามารถไต่ขึ้นไปได้ถึง $1,500,000 Yassine Elmandjra นักวิเคราะห์จาก ARK Invest และเพื่อนร่วมงานของ Wood ยอมรับว่าการคาดการณ์การเติบโตดังกล่าวอาจดูไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ แต่ก็เสริมว่า “มันค่อนข้างสมเหตุสมผล” เมื่อพิจารณาพัฒนาการของสกุลเงินคริปโตในอดีตที่ผ่านมา
Larry Lepard พาร์ทเนอร์ผู้บริหาร Equity Management Associates บริษัทการลงทุนที่ตั้งอยู่ในบอสตันก็ให้การคาดการณ์ระยะยาวเช่นกัน เขาเชื่อว่าในช่วงสิบปีข้างหน้า ดอลลาร์จะอ่อนค่าลง และหลายคนจะลงทุนในสกุลเงินคริปโต ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์กันมากขึ้น เนื่องด้วยปริมาณที่จำกัดของบิทคอยน์ สินทรัพย์ดิจิทัลจะกลายเป็นเครื่องมือการลงทุนที่หลายคนแสวงหา และจะได้ประโยชน์จากการทรุดตัวลงของสกุลเงินเฟียต “ผมเชื่อว่าราคาบิทคอยน์จะพุ่งขึ้น ผมคิดว่ามันจะไปถึง $100,000 จากนั้นคือ $1 ล้านเหรียญ และท้ายที่สุดจะขึ้นไปที่ $10 ล้านเหรียญต่อเหรียญ ผมมั่นใจว่าหลาน ๆ ของผมจะต้องทึ่งว่าคนที่ถือบิทคอยน์เพียงเหรียญเดียวนั้นจะร่ำรวยขนาดไหน” Lepard กล่าว
เอไอ ChatGPT ได้ให้การคาดการณ์ที่ถ่อมตัวลงมาเล็กน้อย โดยชี้ว่าราคาเหรียญอาจขยับขึ้นไปที่ $500,000 ภายในปี 2028 โดยขึ้นไปถึง $1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 และแตะ $5 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2050 อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์องเอไอนี้มาพร้อมกับเงื่อนไขหลายข้อ เช่น การเติบโตจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ สกุลเงินคริปโตเป็นที่ยอมรับกันในวงกว้าง บิทคอยน์กลายเป็นสื่อกลางในการออมเงินที่ได้รับความนิยม และเหรียญนี้จะต้องผนวกรวมอยู่ในหลากหลายระบบการเงิน หากเงื่อนไขเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น การคำนวณของเอไอชี้ว่า ภายใน 2050 มูลค่าของเหรียญบิทคอยน์จะอยู่ที่ระหว่าง $20,000 ถึง $500,000
ทีมขุดหลุมฝังศพให้กับบิทคอยน์: มีใครบ้างที่ทำนายต่ำกว่านี้ $0.0000 ?
ตามกฎข้อที่สามของนิวตัน ทุกการกระทำจะมีการตอบสนองที่เท่ากันและตรงกันข้าม แม้ว่ากฎนี้จะมีมาตั้งแต่ปี 1689 ดูเหมือนว่ามันจะใช้ได้กับสกุลเงินคริปโตในศตวรรษที่ 21 ด้วยเช่นกัน หากมีคนที่กระตือรือร้นที่จะดันราคาบิทคอยน์ ก็ย่อมที่จะมีคนพร้อมที่จะขุดหลุมฝังศพให้กับมันเช่นกัน
Warren Buffett เศรษฐีพันล้านและตำนานแห่งตลาดหุ้นได้อธิบายไว้ว่าเป็น “ไม่ต่างอะไรกับยาเบื่อหนู” พาร์ทเนอร์คู่หูเขา Charles Munger รองประธานบริษัท Berkshire Hathaway มีความเห็นวิพากษ์วิจารณ์ที่คล้ายกัน แม้ว่าเขาจะอายุใกล้ครบ 100 ปีในวันที่ 1 มกราคม 2024 นี้ (ขอแสดงความยินดีกับเขาด้วย) เขายังคงคัดค้าน “ปีศาจ” ดิจิทัลดังกล่าวอย่างแข็งขัน
Munger ได้เรียกร้องให้ทางการสหรัฐฯ ทำลายบิทคอยน์ เขามองว่ามันเป็นการลงทุนที่ไม่ต่างอะไรกับการพนัน ในบทสัมภาษณ์กับ Wall Street Journal เขาได้กล่าวว่า วงการคริปโตได้บ่อนทำลายเสถียรภาพของภาคการเงินโลก และโต้แย้งว่า BTC ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นประเภทสินทรัพย์ เพราะมันไม่มีมูลค่าที่แท้จริงภายใน เขาเชื่อว่า มันควรมีมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดที่ท้ายที่สุดควรจะบีบอุตสาหกรรมให้จนตรอก “มันเป็นการลงทุนที่โง่เง่าที่สุดที่ผมเคยเห็นมา” นักลงทุนชื่อดังกล่าว “ผมไม่ภูมิใจในประเทศของตนเองที่อนุญาตเรื่องไร้สาระเช่นนี้ มันน่าหัวเราะที่มีคนซื้อมัน มันไม่ดี และบ้าบอมาก มันมีแต่ความเสียหาย” เศรษฐีพันล้านมองว่าทุกคนที่ไม่เห็นด้วยกับเขาเป็นคนโง่และตราหน้าบิทคอยน์ว่าเป็น “ผลิตภัณฑ์ที่เน่าเสีย” และ “ไวรัสกามโรค”
Steve Hanke นักเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์ที่ Johns Hopkins University ได้วิจารณ์บิทคอยน์ และกล่าวเสริมว่า มูลค่าพื้นฐานของบิทคอยน์คือศูนย์ เขาให้คำนิยามบิทคอยน์ว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูงอย่างยิ่งที่ไม่มีมูลค่าหรือประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
Peter Schiff ประธานบริษัท Euro Pacific Capital และผู้ชื่นชอบในทองคำเชื่อว่า “ไม่มีด้อยค่าไปกว่าคริปโตเคอเรนซี” และ “บิทคอยน์ไม่มีค่าอะไรเลย” เขาเปรียบเทียบผู้ถือเหรียญนี้ว่าเป็นเหมือนกับลัทธิหนึ่ง “ไม่มีใครจำเป็นต้องมีบิทคอยน์ ผู้คนซื้อมันหลังจากถูกโน้มน้าวจากคนอื่น พอได้มันมาแล้ว พวกเขาก็พยายามที่จะดึงคนอื่นเข้ามาด้วย มันเหมือนกับลัทธิ” Schiff กล่าว ก่อนหน้านี้ในปี 2017 เขาทำนายไว้ว่าเหรียญนี้จะหมดมูลค่าลงในเร็ว ๆ นี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี เขายังคงไม่เปลี่ยนความคิด ไม่นานมานี้เขาได้เน้นย้ำว่า “เส้นทางบิทคอยน์ลงสู่เลขศูนย์นั้นมีความล่าช้าเล็กน้อย แต่ในที่สุดมันจะก็ล่มสลายอย่างแน่นอน”
Jamie Dimon ประธาน JPMorgan บริษัทธนาคารขนาดใหญ่ของอเมริกาได้วิพากษ์วิจารณ์ทองคำดิจิทัลอย่างหนัก ในช่วงรายการข่าวของ CNBC เขาได้แสดงข้อกังขาเกี่ยวกับปริมาณที่จำกัดของบิทคอยน์ที่ 21 ล้านเหรียญ และวันหนึ่งรูปภาพของ Satoshi [Nakamoto] อาจโผล่ขึ้นมาและหัวเราะใส่ทุกคน” เขาคาดการณ์ในอนาคต
Jim Cramer พิธีกร “Mad Money” ช่อง CNBC ก็โฟกัสกับความเสี่ยงเช่นกัน เขาเชื่อว่า ไม่มีใครที่รู้จริง ๆ ว่าผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสหากรรมกำลังปิดบังอะไรอยู่ และไม่มีการันตีความซื่อสัตย์กับลูกค้าแต่อย่างใด เขามองว่า ข่าวฉาวใหม่ใด ๆ สามารถส่งผลให้มูลค่าของบิทคอยน์ดิ่งลงได้เสมอ สินทรัพย์ของนักลงทุนจึงอยู่ในความเสี่ยง เมื่อพูดถึงความเห็นของ Carley Garner นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ระดับอาวุโส & โบรกเกอร์ที่ DeCarley Trading เขาแนะนำให้ออกห่างจากสกุลเงินเสมือนจริง
เมื่อพูดถึงแนวโน้มของสกุลเงินคริปโตอย่างบิทคอยน์ Dieter Wermuth นักเศรษฐศาสตร์และพาร์ทเนอร์ที่ Wermuth Asset Management กล่าวว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นและเรียบง่ายขึ้นหากปราศจากบิทคอยน์ ในมุมมองของเขา มันสมเหตุสมผลที่จะละทิ้งบิทคอยน์ทั้งหมด มันอาจมีประโยชน์สำหรับความมั่งคั่งโดยรวม เพราะการลงทุนในคริปโตมันไร้ประโยชน์และเป็นการดูดเงินออกจากการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวม นอกจากนี้ บิทคอยน์ยังสร้างความไม่เท่าเทียมทางสังคม เอื้อต่อการฟอกเงิน การหลีกเลี่ยงภาษี และใช้พลังงานสูงมากเนื่องด้วยการขุดเหรียญ Dieter Wermuth ยังเรียกบิทคอยน์ด้วยว่าเป็น “ฆาตรการหลักของภูมิอากาศ”
Jenny Johnson ซีอีโอของบริษัทด้านการลงทุน Franklin Templeton ซึ่งบริหารทรัพย์สินมูลค่ากว่า $1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ก็แสดงข้อกังขาเกี่ยวกับบิทคอยน์เช่นกัน เธอกล่าวอ้างว่า บิทคอยน์เป็นตัวเบี่ยงเบนความสนใจที่ใหญ่ที่สุดจากนวัตกรรมที่แท้จริง ประธาน Franklin Templeton เชื่อว่า บิทคอยน์จะไม่สามารถกลายเป็นสกุลเงินระดับโลกได้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่อนุญาตให้มันเกิดขึ้น “ฉันบอกได้เลยว่า หากบิทคอยน์มีความสำคัญมากขึ้นมา จนเป็นภัยคุกคามต่อดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรอง สหรัฐฯ จะจำกัดการใช้งานของมัน” เธอกล่าว
จริง ๆ แล้ว คำกล่าวของ Mrs. Johnson ไม่ได้เป็นการกล่าวขึ้นลอย ๆ ในช่วงปีที่ผ่านมามีการพูดคุยกันมากเกี่ยวกับเรื่องแรงกดดันจากหน่วยงานทางการต่ออุตสาหกรรมคริปโต ความขัดแย้งทางกฎหมาย และโทษปรับที่สูงลิ่ว Gary Gensler ประธานคณะกรรมการกำกับและตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เปรียบเทียบสถานะปัจจุบันของอุตสาหกรรมคริปโตกับช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในขณะนั้น หน่วยงานทางการใช้มาตรการที่เข้มงวดมาก ซึ่งเขาเชื่อว่ามันมีความจำเป็นในขณะนี้เพื่อข่มขู่นักธุรกรรมและคอยสอดส่องดูแลอุตสาหกรรม John Reed Stark อดีตเจ้าหน้าที่ของ SEC เห็นด้วยกับความเห็นของ Gensler “ราคาคริปโตเคอเรนซีขยับขึ้นมาเพราะเหตุผลสองข้อด้วยกัน” เขาอธิบาย “ข้อแรก เป็นเพราะช่องว่างในการกำกับดูแลและโอกาสการปั่นป่วนบงการตลาด ข้อที่สองเพราะความเป็นไปได้ในการขายสกุลเงินคริปโตที่พองตัวและมีมูลค่าเกินจริง ให้กับคนที่โง่เขลายิ่งกว่า"
คำกล่าวดังกล่าวไม่ได้มาจากหน่วยงานทางการของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังมาจากผู้แทนของรัฐบาลทั่วโลกด้วย เช่น ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศเมื่อเดือนธันวาคม 2022 ว่า บิทคอยน์ไม่มีบทบาทสำคัญอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ECB ก็ปรับการประเมินอีกครั้ง โดยเน้นว่า สกุลเงินคริปโตยังคงสามารถทำหน้าที่เป็นทางเลือกแทนสกุลเงินเฟียตได้
***
ทั้งนี้ ตั้งแต่บิทคอยน์กำเนิดขึ้นมา มีการอ้างว่าบิทคอยน์จะม้วยสิ้นสลายไปถึง 474 ครั้ง โดยมีแพลตฟอร์มที่นับตัวเลขดังกล่าวเรียกว่า 99bitcoins แหล่งข้อมูลนี้รวบรวมข้อมูลที่เรียกว่า “ข่าวประกาศมรณกรรมของบิทคอยน์” ซึ่งมาจากคำพูดจากบุคคลที่มีชื่อเสียง แหล่งข่าว และสำนักข่าวอื่น ๆ ที่มีผู้ติดตามมาก และกล่าวเสริมว่า สินทรัพย์อ่อนค่าลงหรือใกล้จะอ่อนค่าลง ในปี 2021 มี “ข่าวมรณกรรม” ดังกล่าว 47 ชิ้น ในปี 2022 - 27 ชิ้น และ 2023 บิทคอยน์ถูกประกาศว่า “ตายแล้ว” เพียง 7 ครั้งเท่านั้น ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ว่าบิทคอยน์ไม่ใช่แค่มีชีวิตเท่านั้น มันยังเติบโตรุ่งเรืองท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งหลาย
เพื่อเป็นการสรุปบทรีวิวนี้ เรามาดูสถิติที่น่าสนใจบางส่วนกันเถอะ ตามรายงานของ DocumentingBTC นักลงทุนที่ลงทุนเป็นเงิน $100 ในทองคำจริงเมื่อสิบปีที่แล้วจะมีเงินเพียง $134 เท่านั้นในบัญชีของพวกเขา การลงทุนในหุ้น Google จะให้ผลตอบแทน $504, Facebook – $818, Amazon – $830, Netflix – $1,040 และ Microsoft – $1,111 นักลงทุน Apple อาจเห็นการลงทุนของตนเองเพิ่มขึ้นเป็น $1,208 Tesla ขึ้นตำแหน่งอันดับสามในโพเดียมความสามารถในการทำกำไร โดยมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก $100 เป็น $4,475 หุ้น NVIDIA ได้อันดับสอง เพิ่มขึ้นเป็น $8,599 อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณลงทุน $100 ในทองคำดิจิทัล บิทคอยน์ คุณก็มีผลตอบแทนที่น่าประทับใจถึง $25,600! ดังนั้น บิทคอยน์จึงถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีที่สุดในรอบสิบปีนี้ บทสรุปนั้นเป็นของคุณเอง
สวัสดีปีใหม่!
กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX
หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้
กลับ กลับ