USD/JPY: รีวิว 2023 และการคาดการณ์ปี 2024

ตามสถิติแล้ว USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น) คือหนึ่งในคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ สภาพคล่องที่สูงของคู่นี้ช่วยรับประกันค่าสเปรดที่แคบและเงื่อนไขการเทรดที่เป็นมิตร แปลว่านักเทรดสามารถเข้าและออกคำสั่งเทรดด้วยค่าใช้จ่ายต่ำ นอกจากนี้ ราคาคู่นี้ยังแสดงความผันผวนที่สูงมาก จึงให้โอกาสการทำกำไรที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะในการเทรดระยะสั้นและระยะยาว

 

2023: เงินเยนแห่งความหวังที่ไม่เติมเต็ม

● ตลอดปี 2023 เงินเยนญี่ปุ่นอ่อนค่ามาอย่างต่อเนื่องเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้น คู่ USD/JPY จึงทำเทรนด์ขาขึ้น ราคาต่ำสุดของปีอยู่ที่ 127.21 เมื่อวันที่ 16 มกราคม ในขณะที่ราคาสูงสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน โดย 1 ดอลลาร์สามารถแลกได้ 151.90 เยน

เราเคยพูดถึงไปแล้วหลายครั้งว่า การอ่อนค่าของเงินเยนนั้นเป็นเพราะท่าทีนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายสุดขั้วของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เข้าใจได้ว่าอัตราดอกเบี้ยติดลบที่ -0.1% ไม่น่าดึงดูดสำหรับผู้ร่วมตลาดเท่าไร โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ผลตอบแทนของพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางรอบโลกอยู่ในระดับสูง สำหรับนักลงทุนแล้ว แนวทางการลงทุนที่ดีคือการแคร์รีเทรด (carry trade) คือ การกู้ยืมเงินเยนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และแลกเป็นเงินดอลลาร์ และพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งให้กำไรที่ดีเนื่องด้วยส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย โดยไม่มีความเสี่ยงใด ๆ

● โยบายทางการเงินที่บังคับใช้โดยรัฐบาลญี่ปุ่นและธนาคารกลางญี่ปุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความสำคัญของพวกเขาไม่ใช่อัตราแลกเปลี่ยนของเงินเยนญี่ปุ่น แต่เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ ธนาคารกลางในสหรัฐฯ อียู และสหราชอาณาจักรต่างเร่งรัดเข็มขัดนโยบายทางการเงินจนถึงกลางฤดูร้อนเพื่อต่อสู้กับอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม BoJ เพิกเฉยต่อแนวทางดังกล่าว แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นจะถีบตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ในเดือนมิถุนายน 2023 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแตะ 4.2% ซึ่งสูงที่สุดในรอบกว่าสี่ปี มาตรการเดียวที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นดำเนิกนารคือเปลี่ยนจากเป้าหมายเส้นโค้งพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นจากเคร่งครัดเป็นแบบยืดหยุ่นเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ช่วยพยุงค่าเงินประเทศแต่อย่างใด

แทนที่จะมีท่าทีที่เป็นรูปธรรม นาย Shunichi Suzuki รัฐมนตรีการเงินของญี่ปุ่น, นาย Kazuo Ueda ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น และนาย Masato Kanda ทูตค่าเงินสูงสุดของญี่ปุ่นได้มีการแทรกแซงด้วยคำพูดหลายครั้ง พวกเขาและผู้บริหารด้านการเงินระดับสูงอีกหลายคนเสริมความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่องว่า ทุกอย่างกำลังอยู่ภายใต้การสอดส่องดูแลด้วยดี พวกเขากล่าวว่ารัฐบาล “กำลังติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินอย่างใกล้ชิด โดยเข้าใจถึงความเร่งด่วนและทันทีของประเด็นนี้” และ “จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับการเคลื่อนไหวของค่าเงินที่รุนแรง โดยไม่ตัดโอกาสตัวเลือกใด ๆ” ส่วนคำพูดของทางนาย Kazuo Ueda มีดังนี้ “เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวในระดับปานกลาง ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงมาก อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะลดลงและจากนั้นจะเร่งตัวอีกครั้ง [แต่] โดยรวมแล้ว ระบบการเงินของญี่ปุ่นยังคงมีเสถียรภาพ” ซึ่งคุณสามารถตีความได้ตามที่คุณต้องการ

ฤดูหนาว-ฤดูใบไม้ผลิ 2023 ในช่วงต้นปีนี้ ผู้เล่นในตลาดหลายคนเชื่อในคำที่ว่า “จะใช้มาตรการแบบทันที” อย่างจริงจัง พวกเขาหวังว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งคงอยู่ในระดับติดลบมาตั้งแต่ปี 2016 ในเดือนมกราคม นักเศรษฐศาสตร์จาก Danske Bank คาดการณ์ว่าหลังจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ย คู่ USD/JPY จะลงมายังระดับที่ 125.00 ภายในสามเดือน นักวิเคราะห์จากธนาคาร Societe Generale ของฝรั่งเศสก็ให้เป้าหมายเดียวกัน เพื่อนร่วมงานจาก ANZ Bank ก็ไม่ตัดโอกาสที่ราคาคู่นี้จะแตะถึงบริเวณ 124.00 ภายในสิ้นปี 2023 ตามการคาดการณ์ของ BNP Paribas ชี้ว่านโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นคาดว่าจะช่วยกระตุ้นให้มีเงินลงทุนไหลเข้ามาเพิ่มขึ้นจากนักลงทุนญี่ปุ่น โดยน่าจะพาราคาของคู่ USD/JPY ลงไปที่ 121.00 ภายในสิ้นปี นักเศรษฐศาสตร์จาก Nordea เครือทางการเงินระหว่างประเทศคาดว่าราคาจะตกลงต่ำกว่า 120.00 โอกาสที่เงินเยนญี่ปุ่นจะแข็งค่าขึ้นมากยังเป็นการคาดการณ์จากนักยุทธศาสตร์ธนาคาร MUFG ของญี่ปุ่น และธนาคาร HSBC ที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร

ฤดูร้อนปี 2023 เมื่อเวลาผ่านไป ไม่มีเหตุการณ์สำคัญอะไรเกิดขึ้น Commerzbank ธนาคารของเยอรมนีระบุว่า เงินเยนเป็นสกุลเงินที่ซับซ้อนในการทำความเข้าใจ น่าจะเป็นเพราะนโยบายทางการเงินของ BoJ Kristalina Georgieva ผู้อำนวยการบริหารกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ให้สัญญาณเบา ๆ ว่า “สิ่งที่เหมาะสมคือการเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับนโยบายทางการเงินของธนาคารญี่ปุ่น"

ในช่วงครึ่งแรกของฤดูร้อน ผู้เล่นตลาดเริ่มปรับการคาดการณ์ของตนเอง นักเศรษฐศาสตร์จาก Danske Bank ตอนนี้ได้คาดการณ์ราคา USD/JPY ต่ำกว่า 130.00 ในช่วง 6-12 เดือน การคาดการณ์ที่คล้ายกันนั้นยังมาจากนักยุทธศาสตร์ที่ BNP Paribas โดยคาดการณ์ระดับ 130.00 ภายในสิ้นปี 2023 และ 123.00 ภายในสิ้นปี 2024 ด้านการคาดการณ์เดือนกรกฎาคมของ Societe Generale ก็มีความระมัดระวังมากกว่าเช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญของธนาคารคาดว่า ผลตอบแทนของพันธบัตรชุด 5 ปีของสหรัฐฯ จะลดลงเหลือ 2.66% ในหนึ่งปี ราคาคู่นี้จึงน่าจะลดลงมาต่ำกว่าระดับ 130.00 ในกรณีที่ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ยังคงอยู่ที่ระดับเดิม ราคาคู่นี้อาจจะตกลงมาที่ 125.00

การคาดการณ์ของ Wells Fargo หนึ่งในธนาคาร “Big Four” ของสหรัฐฯ ถือว่าปานกลางมากกว่า ผู้เชี่ยวชาญให้อัตราแลกเปลี่ยน USD/JPY ไว้ที่ 136.00 ภายในปี 2023 และ 129.00 ภายในสิ้นปี 2024 ด้าน MUFG ประกาศว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 เท่านั้น หลังจากนั้นเงินเยนถึงจะเริ่มแข็งค่าขึ้น ในส่วนการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในนโยบายควบคุมเส้นโค้งผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล MUFG เชื่อว่า มันยังไม่เพียงพอที่จะกระตุ้นให้ค่าเงินเยนฟื้นตัวขึ้น Dankske Bank ระบุว่า ไม่แนะนำให้คาดหวังท่าทีใด ๆ จาก BoJ ก่อนครึ่งหลังของปี 2024

ฤดูใบไม้ร่วง-ฤดูหนาว 2023 ไม่มีใครหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะเปลี่ยนนโยบายทางการเงินก่อนสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในตลาดเริ่มกังวลว่า เงินเยนที่อ่อนแออาจเปลี่ยนท่าทีของผู้บริหารของทางการญี่ปุ่นจากการแทรกแซงด้วยวาจาเป็นการแทรกแซงอย่างเป็นรูปธรรมจริงในที่สุด

คู่ USD/JPY แข่งที่จะขยับถึงระดับสำคัญที่ 150,00 อย่างกระตือรือร้น ผู้เล่นในตลาดจำได้อย่างจดจ่อว่า ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 เมื่อราคาแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปีที่ 152.00 ทางการญี่ปุ่นได้เริ่มแทรกแซงทางการเงิน รายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์สยิ่งเพิ่มเชื้อเพลิงให้กองไฟ ซึ่งระบุว่า ทูตค่าเงินสูงสุดของญี่ปุ่น นาย Masato Kanda ได้ประกาศว่าธนาคารกลางฯ กำลังพิจารณาเข้าแทรกแซงเพื่อยุติการเคลื่อนไหวที่ “เก็งกำไร”

หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม หลังจากราคาสูงขึ้นเกินระดับ “มหัศจรรย์” ที่ 150.00 ไปแตะที่ 150.15 ซึ่งสิ่งที่ทุกคนได้คาดหวังมายาวนานก็ได้เกิดขึ้นในที่สุด ในเวลาเพียงไม่กี่นาที คู่ USD/JPY ก็ร่วงลงมาเกือบ 300 จุด ลงมาที่ 147.28 นาย Shunichi Suzuki รัฐมนตรีการเงินของญี่ปุ่นเลี่ยงที่จะให้ความเห็นต่อเหตุการณ์นี้ เขากล่าวอย่างกำกวมว่า “มีปัจจัยหลายอย่างที่กำหนดการเคลื่อนที่ในตลาดค่าเงินว่ามากเกินไปหรือไม่” อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นในตลาดเชื่อว่านี่คือการเข้าแทรกแซงค่าเงินอย่างแท้จริง แต่แน่นอนว่า เราไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ที่อาจมีคำสั่ง stop-orders จำนวนมหาศาลที่มีผลโดยอัตโนมัติที่ระดับราคาเกินระดับสำคัญที่ 150.00 เพราะเหตุการณ์ “หงส์ดำ” ดังกล่าวก็เคยเกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว

● ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงจะเป็นอะไร การแทรกแซงก็ไม่ได้ช่วยค่าเงินเยนได้มากนัก และ 40 วันถัดมา ราคาก็กลับมาเทรดที่เหนือระดับ 150.00 อีกครั้งที่ระดับ 151.90 ในช่วงนี้เองเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน เทรนด์เกิดการกลับตัว และเงินเยนเริ่มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์หลังจากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลชุด 10 ปีของสหรัฐฯ ทำระดับสูงสุด เมื่อตลาดเชื่อว่าแนวโน้มขาลงนั้นกลายเป็นเทรนด์จริง ๆ ทั้งนี้ ควรคำนึงธรรมชาติความสัมพันธ์แบบผะผันระหว่างสินทรัพย์เหล่านี้และเงินเยนด้วย โดยทั่วไป หากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น ค่าเงินเยนจะอ่อนค่าเทียบกับดอลลาร์ และในกรณีกลับกัน หากผลตอบแทนของพันบัตรลดลง เงินเยนก็จะแข็งค่าขึ้น

เหตุผลหลักที่ค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นมาเป็นเพราะความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะล้มเลิกนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในที่สุด ซึ่งน่าจะเร็วกว่าที่คาดคิด มีข่าวลือว่าธนาคารระดับภูมิภาคในญี่ปุ่นเริ่มทำการล็อบบี้ใก้ล้มเลิกนโยบายการควบคุมเส้นโค้งผลตอบแทนพันธบัตร และเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารกลางญี่ปุ่น

เงินเยนยังได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นของตลาดว่า อัตราดอกเบี้ยของธนาคารเฟดและ ECB คงที่แล้ว โดยคาดว่าจะมีแต่ปรับตัวลดลงหลังจากนี้เท่านั้น การเบี่ยงเบนระหว่างอัตราดอกเบี้ยจึงส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่า นักลงทุนจะเริ่มทิ้งห่างจากกลยุทธ์แคร์รีเทรด และส่วนต่างของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นและของสหรัฐฯ และยูโรโซนจะเริ่มลดลงในที่สุด นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า ปัจจัยทั้งหลายเหล่านี้คาดว่าจะทำให้เงินทุนไหลกลับเข้ามายังเงินเยน

ราคาต่ำสุดของไตรมาสอยู่ที่ 140.24 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม หลังจากนั้น USD/JPY ก็ปิดตลาดท้ายปี 2023 ที่ 141.00

 

2024 – 2028: การคาดการณ์ล่าสุด

● หลังจากราคาร่วงลงมาอย่างหนักสามปีติดต่อกัน ค่าเงินเยนก็กลับทิศทางในที่สุด นี่คือความเห็นของผู้ตอบแบบสำรวจของ Bloomberg โดยรวมแล้ว ผู้ตอบแบบสำรวจดังกล่าวคาดว่าค่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้นในปีหน้า โดยให้ตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยของ USD/JPY ที่ระดับ 135.00 ภายในสิ้นปี 2024

ธนาคารกลางหลายแห่งคาดการณ์ราคานี้ในกรอบ 125.00-135.00 (Goldman Sachs ที่ 130.00, Barclays ที่ 135.00, UBS ที่ 132.00, MUFG ที่ 125.00) นักยุทธศาสตร์ค่าเงินที่ HSBC เชื่อว่าดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังมีมูลค่ามากเกินจริง และจะกลับสู่มูลค่าที่เหมาะสมในช่วงห้าปีข้างหน้า เนื่องด้วยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลงในสหรัฐฯ และตลาดหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ผู้เชี่ยวชาญจาก HSBC คาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนของคู่นี้จะแตะ 120.00 ภายในกลางปี 2024 และลดลงมาที่ 108.00 ภายในปี 2028 ตามการคาดการณ์ของ ING Group อัตราแลกเปลี่ยนนี้จะลดลงมาที่บริเวณ 120.00 ในปี 2025 เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มคนที่คาดการณ์ว่าเงินเยนญี่ปุ่นจะอ่อนค่าลงต่อ และคู่นี้จะ “บินขึ้นสู่ดวงจันทร์” ต่อไป เช่น นักวิเคราะห์จาก Economic Forecasting Agency (EFA) คาดว่า USD/JPY จะไปถึง 166.00 ภายในสิ้นปี 2024, 185.00 ภายในสิ้นปี 2025, และ 188.00 ภายในสิ้นปี 2026 ด้านการคาดการณ์ของ Wallet Investor ชี้ว่า ราคาคู่นี้จะขยับขึ้นต่อไป ถึงระดับที่ 208.10 ภายในปี 2028

● โดยสรุปแล้ว สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการวิเคราะห์กราฟต้องกล่าวด้วยว่าพฤติกรรมการเคลื่อนที่ของ USD/JPY ตลอดปี 2023 สอดรับกับทฤษฎี Elliott Wave โดยสมบูรณ์ หากในปี 2024 ราคาคู่นี้ยังคงเคลื่อนที่ตามทฤษฎีนี้ เราอาจได้เห็นการปรับฐานของคลื่น B กระทิง ซึ่งตามมาด้วยคลื่น Impulse C ที่อาจพาราคาไปยังระดับตามความเห็นของผู้ที่มองว่าเงินเยนจะแข็งค่าขึ้น

 

กลุ่มนักวิเคราะห์ NordFX

 

หมายเหตุ: เนื้อหาดังกล่าวไม่ควรยึดถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนหรือเป็นคำปรึกษาในการซื้อขายในตลาดการเงิน โดยเนื้อหาข้างต้นเป็นไปเพียงเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น การซื้อขายในตลาดการเงินมีความเสี่ยงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียเงินฝากได้

กลับ กลับ
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ นโยบายคุกกี้ ของเรา