เราไม่ได้บอกว่าการลงทุนวิธีอื่นนั้นโง่หรือไม่ดี เพียงแค่แนวทางที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้จะสามารถช่วยเพิ่มรายได้จากการลงทุนของคุณได้หลายเท่า นอกจากนี้ ยังเป็นการลงทุนที่ทำได้ง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้
เกี่ยวกับอะไรและเคล็ดลับนี้คืออะไร?
เรากำลังพูดถึงการลงทุนในสกุลเงิน คริปโตเคอเรนซี หุ้นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลก ดัชนีหุ้น ทองคำ เงิน และน้ำมัน จริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่อะไรใหม่ ๆ คุณสามารถไปที่ธนาคารและฝากเงินของคุณเข้าไปได้ หรือซื้อหุ้นเองได้ คุณสามารถทำธุรกรรมคล้าย ๆ กันนี้ผ่านโบรกเกอร์และทำกำไรได้หลายสิบ ร้อย หรือพันเท่ามากกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิมทั่วไป
เป็นไปได้อย่างไร? นี่ไม่ใช่กลโกงหรือ? ไม่ ไม่ใช่การโกงใด ๆ และทุกอย่างเป็นเรื่องจริง เคล็ดลับก็คือ บริษัทโบรกเกอร์ขนาดใหญ่หลายแห่งให้สินเชื่อกับลูกค้าโดยอัตโนมัติ ทันที และไม่มีหลักประกันใด และด้วยสินเชื่อเหล่านี้ ลูกค้าจึงสามารถทำการลงทุนได้มากกว่าจำนวนเงินต้นของตน ธุรกรรมพร้อมเงินสนับสนุนดังกล่าวจากโบรกเกอร์เรียกว่า ธุรกรรมมาร์จิน หรือธุรกรรมที่ใช้อัตราทดในภาษาการเทรด
ก่อนหน้านี้ ธุรกรรมเช่นนี้จะมีจำกัดเฉพาะกับเจ้ามือรายใหญ่ ๆ ในวอลล์สตรีทเท่านั้น แต่ปัจจุบัน พัฒนาการของอินเทอร์เน็ตและการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ทำให้คนทั่วไปหลายร้อยล้านคนรอบโลกสามารถเข้าถึงการเทรดรูปแบบนี้ได้ เพียงแค่มีเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน และเงินอย่างน้อย $10 เป็นเงินทุนเริ่มต้น
เคล็ดลับกำไรสู่จักรวาล
แล้วโบรกเกอร์สามารถเพิ่มเงินต้นของคุณได้มากแค่ไหน? เราจะตอบคำถามนี้ด้วยตัวอย่างง่าย ๆ จากโบรกเกอร์ NordFX
สำหรับธุรกรรมสกุลเงิน อัตราทดหรือเลเวอเรจอาจสูงถึง 1:1000 กล่าวคือ สมมติว่าคุณมีเงินแค่ $100 คุณจะสามารถทำธุรกรรมการเทรดได้สูงสุดจำนวน $100,000 และกำไรของคุณในกรณีนี้จะเป็น 1000 เท่าของจำนวนเงินปกติ
อัตราทดที่ 1:200 สำหรับธุรกรรมเทรดทองคำ เช่น ที่ราคาปัจจุบันคือ $1,800 ต่อออนซ์ คุณจะต้องมีเงินเพียง $290 เท่านั้น แทนที่ $58,000 เพื่อทำการลงทุนที่เท่ากับทองคำ 1 กิโลกรัม
จริง ๆ แล้วนั้น คุณจะไม่ได้รับทองคำหนึ่งกิโลกรัม แต่การลงทุนนี้จะคงที่อยู่ในบัญชีของคุณ และหากราคาทองคำเพิ่มขึ้น คุณจะได้รับกำไรเดียวกันราวกับว่าทองคำแท่งนั้นเก็บไว้ในธนาคารของคุณหรือใต้เตียงของคุณอย่างปลอดภัย เช่นเดียวกันกับสินทรัพย์การเงินอื่น ๆ ทำไมคุณจะต้องหาสถานที่กักเก็บน้ำมันสิบตัน ถ้าคุณแค่ฝากมันเข้าในบัญชีก็พอแล้ว?
คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนจำนวนมากในการลงทุนในหุ้นเช่นกัน ปริมาณการลงทุนขั้นต่ำ คือ 1 หุ้น และถ้าหากหุ้น Amazon.com Inc ในขณะนี้มีราคาอยู่ที่ $3,700 ซึ่งถือว่าเป็นเงินจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีหุ้น Hewlett Packard ที่ราคาเพียงแค่ $30 และหุ้นบริษัท Ford Motor ที่ราคา $15 ดังนั้น หากคุณมีเงิน $100 พร้อมมีอัตราทดที่ 1:5 คุณจะสามารถสร้างพอร์ตการลงทุนที่ดีได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ NordFX มีสินทรัพย์มากมายให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น หุ้นของบริษัทชื่อดังระดับโลกเกือบ 70 บริษัท ได้แก่ Apple, Ferrari, IBM, Visa, Google, JP Morgan Chase, Coca-Cola, Mastercard, McDonalds, Microsoft, Twitter, UBER, eBay, Alibaba, Netflix, Deutsche Bank และอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมี “พอร์ต” สำเร็จรูป เช่น ดัชนีหุ้นให้บริการ เช่น Dow Jones, Standard & Poor's 500, DAX 30, Nikkei 225 ฯลฯ ซึ่งมีอัตราทดอยู่ที่ 1:10
ตอนนี้มาถึงส่วนคริปโตเคอเรนซี ในกรณีนี้คุณสามารถลงทุนได้หลายแนวทาง คุณสามารถซื้อบิทคอยน์ที่ราคา $35,000 ได้บนตลาดแลกเปลี่ยน ซึ่งเป็นราคาเหรียญ ณ ปัจจุบัน หรือคุณสามารถจ่ายเงินเพียง $150 ซึ่งนี่เป็นจำนวนที่ต้องใช้ในการซื้อบิทคอยน์ 1 เหรียญบนบัญชีที่ NordFX อีกทั้ง โบรกเกอร์นี้ยังอนุญาตให้คุณทำธุรกรรมกับเงินคริปโตยอดนิยม 11 สกุล ภายใต้เงื่อนไขที่เอื้อต่อการทำกำไรเหมือน ๆ กัน เช่น ใช้เงินแค่ $15 สำหรับการเทรด Ethereum, EOS - $0.3 และใช้เงินแค่เพียง 2 เซนต์ดอลลาร์เท่านั้นในการลงทุนกับ 1 Ripple
กำไรมหาศาล ความเสี่ยง
ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้อาจฟังดูราวกับปาฏิหารย์ แต่ปาฏิหารย์เกิดขึ้นในบางครั้ง โดยเฉพาะในโลกการเงิน ไม่เช่นนั้น เศรษฐีร้อยล้านพันล้านจะมาจากไหน? จริงๆ ถ้าให้พูดตามตรงก็คือ การลงทุนที่ประสบความสำเร็จจะทำให้กำไรของคุณพุ่งขึ้นด้วยความเร็วสูง แต่ในกรณีที่ล้มเหลวคุณก็จะเจอกับการขาดทุนในลักษณะเดียวกัน แต่! ที่ NordFX คุณจะไม่มีวันขาดทุนไปมากกว่าเงินต้นของคุณ
กล่าวคือ หากตอนนี้คุณลงทุนเป็นเงิน $150 ในบิทคอยน์ และเหรียญนี้ทำราคาขึ้นมาจาก $35,000 เป็น $65,000 ภายในสิ้นปี กำไรของคุณจะอยู่ที่ $30,000 แต่หากราคาของเหรียญนี้ดิ่งลง คุณจะเสียเงินมากสุดแค่ $150 และไม่มีทางเสียเงินมากกว่าจำนวนนี้
นี่จึงเป็นอัตรากำไร-ความเสี่ยงที่ดีมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณ รวมถึงจังหวะในการลงทุนของคุณ หากคุณฝากเงินในธนาคาร คุณมักจะเลือกระยะเวลาที่ลงทุน เช่น หนึ่งเดือน หกเดือน หรือหนึ่งปี ในขณะที่การทำงานกับโบรกเกอร์นั้น คุณสามารถเลือกได้เสมอว่าจะยุติการลงทุนเมื่อใด คุณซื้อหุ้นแล้วเกิดเปลี่ยนใจ คุณสามารถปิดคำสั่ง และโอนเงินไปซื้อทองคำแทนได้ เป็นต้น คุณสามารถทำแบบนี้ได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นเวลาในเวลาไม่กี่วินาที หรือไม่กี่ปีก็ตาม
นักลงทุนเชิงรุก นักลงทุนเชิงรับ
ลงทุนเชิงรุกเข้าใจได้ง่ายๆ คือ เป็นการลงทุนที่คุณประเมินความเสี่ยงด้วยตนเอง และตัดสินใจว่าจะลงทุนที่ไหน เท่าใด และลงทุนเป็นเวลานานแค่ไหน แต่ถ้าหากคุณขาดประสบการณ์มากพอ คุณจะประสบปัญหาในการทำการตัดสินใจดังกล่าว ซึ่งในที่นี้เอง ผู้เชี่ยวชาญ NordFX จะเป็นผู้นำเสนอทางเลือกการลงทุนเชิงรับให้กับคุณสามแนวทางด้วยกัน ดังต่อไปนี้
1. บัญชี PAMM (ย่อมาจาก Percent Allocation Management Module หรือบัญชีการบริหารและจัดสรรเปอร์เซ็นต์) ซึ่งเป็นรูปแบบการทำรายได้ที่คลาสสิก ได้รับการพิสูจน์แล้ว และเรียบง่าย แม้ว่าคุณจะต้องเสียสละกำไรบางส่วนให้กับผู้ที่ทำงานให้กับคุณ คุณจะทำหน้าที่เป็นนักลงทุน เลือกผู้จัดการ PAMM หนึ่งหรือหลายคนจากรายการเรตติ้งของ NordFX ที่คุณไว้วางใจให้เปิดธุรกรรมในตลาดการเงิน
2. Copy Trading คือ อีกหนึ่งวิธียอดนิยมในการทำกำไร แม้ว่าคุณจะไม่มีประสบการณ์การเทรดอิสระเป็นของตนเอง เช่นเดียวกันกับบริการ PAMM คุณจะได้รับข้อมูลสถิติซึ่งในบริการนี้ คุณจะเลือกผู้ให้บริการสัญญาณแทนผู้จัดการ PAMM ข้อแตกต่างก็คือ ในบริการ PAMM เงินที่คุณลงทุนจะโอนไปให้ในบัญชีของผู้จัดการ ซึ่งเขาหรือเธอจะเป็นผู้เทรดให้ แต่ในบริการ Copy Trading เงินในบัญชีอยู่กับคุณ ในบัญชีของคุณ ซึ่งเป็นการคัดลอกคำสั่งเทรดจากผู้ให้บริการโดยอัตโนมัติ
3. และอีกหนึ่งทางเลือก คือบริการบัญชี Savings ของ NordFX บัญชีประเภทนี้นำเสนอนวัตกรรมสุดพิเศษที่พัฒนาขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญโดยอยู่บนหลักการเทคโนโลยี DeFi เปิดโอกาสให้คุณทำรายได้เชิงรับได้สูงสุด 30% ต่อปี อีกทั้งยังเพิ่มผลกำไรของคุณได้ผ่านธุรกรรมอิสระในตลาดการเงินด้วยการรับสินเชื่อสำหรับการเทรดจากโบรกเกอร์ด้วยดอกเบี้ยเพียง 3% นอกจากนี้ รายได้จากการลงทุนจะโอนเข้าสู่บัญชีของคุณไม่ใช่หลังระยะเวลาใด ๆ แต่เงินจะเข้าเป็นประจำทุกวัน
กลับ กลับ